กันยายนเที่ยวประเทศไหนดี ปักหมุดโลเคชันน่าเที่ยว ไปกี่ทีก็หลงรัก

กันยายน เที่ยวไหนดี? ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนกันยายนที่แรกที่อยากแนะนำคือ Cinque Terre ประเทศอิตาลี ช่วงนี้จะเป็นช่วงปลายหน้าร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังดี อุณหภูมิราว 17-25 องศา ไม่ร้อนจัดเหมือนช่วงพีคของซัมเมอร์ แต่ก็อุ่นพอให้สัมผัสไออุ่นของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ข้อดีอีกอย่างคือนักท่องเที่ยวเริ่มบางตาลงแล้ว ไม่แออัดวุ่นวายเท่าช่วงไฮซีซั่น ทำให้คุณสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป และซึมซับบรรยากาศของหมู่บ้านริมทะเลได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ ทะเลยังคงใสสวย เหมาะแก่การพักผ่อนริมหาดได้ฟินๆ  

Cinque Terre เป็นหมู่บ้านริมทะเลที่ตั้งอยู่ในแคว้น Liguria ประเทศอิตาลี มีทั้งหมด 5 หมู่บ้านเรียงตามแนวชายฝั่ง ได้แก่ Riomaggiore, Manarola, Corniglia, Vernazza และ Monterosso al Mare แต่ละหมู่บ้านมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ช่วงเวลาที่ดีคือเริ่มประมาณ 8-9 โมงเช้า เพราะคนจะไม่เยอะ และมีเวลาในการเดินสำรวจแต่ละหมู่บ้าน มาดูกันว่าในหนึ่งวันที่ Cinque Terre มีอะไรน่าทำบ้าง  

เริ่มต้นวันด้วย Vernazza หมู่บ้านริมทะเลแสนน่ารัก ที่มีท่าเรือเล็กๆ และจัตุรัสที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส ยามเช้า ที่นี่ยังคงเงียบสงบ แสงแดดอ่อนๆ ทอประกายลงมา ชวนให้หมู่บ้านดูมีชีวิตชีวา ลองเดินเล่นไปตามตรอกซอกซอยในหมู่บ้าน แล้วขึ้นไปชมวิวที่ปราสาท Castello Doria คุณจะได้เห็นภาพทะเลสีครามและหมู่บ้านที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูง วิวที่สวยจนแทบลืมหายใจ ช่วงเช้าแบบนี้ เหมาะกับการเที่ยวชมมากๆ อากาศเย็นสบาย คนยังไม่พลุกพล่าน ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

 
ร้านอาหารแนะนำ:สามารถไปทานมื้อเช้าแสนอร่อยได้ที่ Lunch Box Vernazza กัน ร้านนี้เหมาะมากสำหรับการเริ่มต้นวันแบบสบายๆ ลองสั่ง Cappuccino สักแก้ว จิบคู่กับ Focaccia al Formaggio แป้งนุ่มๆ ชีสเค็มๆ รับรองว่าได้พลังเต็มเปี่ยมพร้อมลุยกันต่อแน่นอน 

พอสายหน่อย เราก็มุ่งหน้าไป Monterosso al Mare กัน ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดใน Cinque Terre และมีชายหาดกว้างขวางสุดๆ ช่วงสายๆ แบบนี้ เหมาะมากกับการเดินเล่นริมหาด สูดอากาศทะเลให้ชุ่มปอด หรือถ้าอยากพักเหนื่อย ก็หาที่นั่งชิลๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วก็ได้ ตอนนี้บรรยากาศยังเงียบสงบอยู่ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่มากันจนถึงช่วงบ่าย 


ร้านอาหารแนะนำ: มื้อกลางวันเรามาแวะกันที่ Da Eraldo ร้านเล็กๆ ในซอยของ Monterosso al Mare ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารพื้นเมืองแท้ๆ ลอง Trofie al Pesto พาสต้าท้องถิ่นกับซอสเพสโต้สูตรดั้งเดิม หรือ Acciughe al limone ปลาแองโชวี่สดๆ ราดน้ำมะนาว จิบไวน์ขาวเย็นๆ สักแก้ว ดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ แบบอิตาเลียน 

อิ่มแล้วก็มากันที่กิจกรรมยามบ่าย ได้เวลามุ่งหน้าสู่ Riomaggiore กันบ้าง ที่นี่มีบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายลดหลั่นตามหน้าผา สวยงามจนอดใจไม่ไหว ต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกันเลยทีเดียว ลองเดินเล่นตาม Via dell'Amore เส้นทางเลียบชายฝั่งที่ใครๆ ก็ชอบไป ใช้เวลาบ่ายๆ แบบสบายๆ ซึมซับบรรยากาศเงียบสงบของหมู่บ้านไปพลางๆ มีร้านรวงให้แวะ มีดีเทลเล็กๆ ตามทางให้ถ่ายรูปเก็บเยอะมาก 

พอตกเย็น เราจะไปปิดท้ายวันกันที่ Manarola หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่ามีวิวพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดใน Cinque Terre เลย เดินเล่นสำรวจหมู่บ้านสักพัก แล้วหาที่นั่งดีๆ ใกล้ๆ ท่าเรือ รอชมพระอาทิตย์ตกกัน ควรไปถึงจุดชมวิวคือประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อให้มีเวลาสำรวจและหามุมที่ดีในการถ่ายรูป ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือประมาณ 5-6 โมงเย็นบรรยากาศในเวลานี้จะเงียบสงบ โรแมนติกสุดๆ นั่งพักผ่อนสบายๆ ปล่อยความเหนื่อยล้าให้หายไปกับวิวสวยๆ ของทะเลและหมู่บ้านสีสันสดใส 

ร้านอาหารแนะนำ: มาปิดท้ายวันด้วยมื้อเย็นสุดพิเศษที่ Nessun Dorma ร้านนี้ดังมากในหมู่นักท่องเที่ยว จากร้านจะได้เห็นวิวพาโนรามาของอ่าว Manarola  เริ่มด้วย Bruschetta ขนมปังกรอบราดหน้าสารพัด รับรองว่าอร่อยจนต้องเบิ้ลแน่นอน ต่อด้วยชีสกับแฮมรสเด็ด ที่เค้าคัดมาอย่างดี และห้ามพลาด Tagliere di pesce จานซีฟู้ดรวมฮิตสดๆ จากทะเล อร่อยชนิดที่ว่าได้กลิ่นทะเลเลยทีเดียว สั่งไวน์สักแก้ว จิบไปพลางๆ ชมพระอาทิตย์ตกไปพลางๆ รับรองว่าฟินสุดๆ 

ที่พักน่านอนใน Cinque Terre

ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนกันยายนนี้ ขอชวนไปปักหมุดเกียวโตในมุมที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก นั่นคือ Ine Fishing Village ที่ซ่อนตัวอยู่ในเกียวโตนี่เอง  

Ine Fishing Village เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ น่ารัก ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวด้วยบ้านเรือนแบบ "ฟุนายะ" หรือบ้านเรือริมน้ำสไตล์ดั้งเดิม สวยแปลกตาสุดๆ และในเดือนกันยานี้นี่แหละ เหมาะสุดๆ ที่จะมาเยือน เพราะอากาศเริ่มเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนหน้าร้อน ทะเลก็ยังฟ้าใส เงียบสงบ ไม่ว่าจะเดินเล่นริมหาดหรือล่องเรือชมวิว รับรองว่าฟินจนลืมหายใจ ที่สำคัญคือตอนนี้นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ เราเลยได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศหมู่บ้านแบบเต็มอิ่ม ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย ไม่ต้องแย่งใคร มาดูกันว่า ที่หมู่บ้านนี้ มีอะไรได้ไปน่าสัมผัสบ้าง 

เริ่มต้นวันใหม่ในตัวหมู่บ้าน Ine กัน! ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์กันสักหน่อย ช่วงเวลานี้หมู่บ้านยังเงียบสงบ มีแค่เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ กับเสียงนกร้องทักทายยามเช้า บรรยากาศชวนให้รู้สึกสดชื่นสุดๆ เดินเล่นไปตามริมทะเล ชมบ้านฟุนายะที่เรียงรายสวยงาม แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางหลังทาสีสดใส บางหลังคงความเป็นธรรมชาติของไม้ ทุกหลังล้วนมีเสน่ห์น่าหลงใหล ระหว่างทาง คุณอาจเห็นชาวประมงกำลังเตรียมออกเรือ หรือแม่บ้านกำลังตากปลา เป็นภาพวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่หาดูได้ยากในเมืองใหญ่ อย่าลืมแวะถ่ายรูปตรงสะพานไม้เก่าแก่กลางหมู่บ้าน  

ร้านอาหารแนะนำ: FUNAYA KAJIYA เมนูเด็ดที่ต้องลอง คือเซตอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น มีทั้งข้าว ซุปมิโสะ ปลาย่าง และผักดองสูตรท้องถิ่น รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องสุดๆ ยิ่งได้ทานพร้อมชมวิวทะเลยามเช้า รับรองว่าฟินจนลืมง่วงไปเลย 

พอสายหน่อย ได้เวลาออกไปล่องเรือชมวิวรอบหมู่บ้าน! กิจกรรมนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะคุณจะได้เห็นมุมมองที่สวยที่สุดของ Ine Fishing Village 

นั่งเรือออกไปกลางอ่าว มองกลับมาที่ฝั่ง คุณจะเห็นภาพบ้านเรือเรียงรายริมทะเลแบบพาโนรามา สวยราวกับภาพวาด ยิ่งถ้าเป็นวันที่ท้องฟ้าใส ภาพสะท้อนของหมู่บ้านบนผิวน้ำยิ่งชวนตะลึง ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนแน่นอน อย่าลืมซื้ออาหารนกไปด้วย ระหว่างล่องเรือ คุณจะได้ให้อาหารฝูงนกนางนวลที่บินตามเรือมา เป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าตื่นเต้น อย่าลืมถ่ายวิดีโอเก็บบรรยากาศตรงนี้ไว้ด้วยนะ 

ร้านอาหารแนะนำ : สำหรับมื้อกลางวัน แนะนำให้แวะร้าน Ine handmade soba "Kochi" เมนูเด็ดที่ต้องสั่งคือ โซบะเย็น เส้นเหนียวนุ่ม หอมกลิ่นโซบะแท้ๆ จุ่มกับซอสดัชชิสูตรเด็ดของทางร้าน อร่อยจนต้องขอเพิ่ม! ถ้าใครชอบของอุ่นๆ ลอง โซบะร้อน น้ำซุปใสๆ รสชาติกลมกล่อม อย่าลืมสั่งเทมปุระผักตามฤดูกาลมาทานคู่กันด้วยนะ กรอบนอกนุ่มใน อร่อยลงตัวสุดๆ 

ช่วงบ่ายนี้ ขอชวนไปแวะที่ Mukai Shuzo กันหน่อย ที่นี่เป็นโรงกลั่นสาเกชื่อดังประจำ Ine มีประวัติยาวนานเป็นร้อยๆ ปีแล้ว ขึ้นชื่อเรื่องสาเกรสเด็ดไม่เหมือนใคร พอเข้าไปในโรงกลั่น คุณจะได้เรียนรู้วิธีทำสาเกแบบโบราณ เห็นขั้นตอนทุกอย่าง แถมยังได้ชิมสาเกสดๆ จากโรงกลั่นด้วย อร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลย อากาศเริ่มเย็นสบาย เหมาะมากที่จะนั่งจิบสาเกชิลๆ พักผ่อนคลายเหนื่อย ใครที่เป็นสายคาเฟ่ก็ยังสามารถไปแวะคาเฟ่ Miyabi Ine Boathouse ที่อยู่ไม่ไกลกันได้นะ สั่งชาเขียวกับดังโงะสักจาน นั่งชมวิวริมแม่น้ำไปพลางๆ บอกเลยว่าฟินแบบสโลว์ไลฟ์สุดๆ 

ตกเย็นแล้ว ได้เวลาแวะ Roadside Station, Funaya no Sato Ine กันหน่อย! ที่นี่เป็นจุดแวะพักริมทางที่จะพาคุณดำดิ่งสู่วิถีชีวิตของชาว Ine แบบเต็มๆ มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ น่ารักๆ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านและการประมงในแถวนี้ แต่ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่จุดชมวิว! มองลงมาเห็นหมู่บ้าน Ine ทั้งหมู่บ้านเลย สวยจนต้องรีบคว้ากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้แน่ๆ 

ร้านอาหารแนะนำ: ขอแนะนำร้าน Wadatsumi อาหารทะเลสดๆ สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เมนูเด็ดห้ามพลาดคือ Kaisendon ข้าวหน้าปลาดิบนานาชนิด ถ้าใครชอบซาชิมิ ที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน ปลาสดเนื้อแน่น รสชาติดีเยี่ยม 

นั่งทานไปชมพระอาทิตย์ตกไป บรรยากาศดีสุดๆ ปิดท้ายวันด้วยมื้อเย็นแสนอร่อย ในบรรยากาศสุดโรแมนติก รับรองว่าเป็นความทรงจำที่หวานชื่นไปอีกนาน! 

ที่เที่ยว กันยายนแห่งที่ 3 ขอพาไปปักหมุดกันที่ Banff National Park! เดือนนี้เป็นช่วงเวลาทองที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะเป็นฤดูที่ใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาและป่าไม้กลายเป็นภาพวาดสีสันสดใสราวกับภาพวาด อากาศก็เย็นสบาย เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเดินป่า ปีนเขา หรือล่องเรือในทะเลสาบสีเทอร์ควอยซ์ 

ที่สำคัญ หลังจากช่วงไฮซีซั่นผ่านไป นักท่องเที่ยวจะเบาบางลง ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ แถมยังมีโอกาสเห็นสัตว์ป่ามากขึ้นด้วย! ไม่ว่าจะเป็นกวาง มูส หรือหมี ที่มักจะออกมาหาอาหารเพื่อเตรียมตัวก่อนฤดูหนาว  

เริ่มต้นทริปกันที่ Lake Louise ทะเลสาบสีฟ้าใส สวยจนต้องตะลึง ยิ่งมีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังด้วย บอกเลยว่าเกินบรรยาย! การมาในช่วงเช้าค่อนสายเขาว่ากันว่าเป็นเวลาทองเลยนะ แสงแดดอ่อนๆ สาดลงมาบนผิวน้ำ ทำให้ทะเลสาบดูเหมือนกระจกยักษ์สะท้อนภูเขา สวยจนลืมหายใจ แถมยังเงียบสงบสุดๆ เหมาะกับการมานั่งชิลล์ ปล่อยใจให้ลอยไปกับธรรมชาติ จะเลือกเดินเล่นรอบทะเลสาบ สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดให้เต็มที่ หรือจะลองพายเรือแคนูดูก็เก๋ไปอีกแบบ ได้มุมมองใหม่ๆ ที่ทำให้ตื่นเต้นตื่นตา รับรองว่าไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ก็ได้ภาพสวยๆ กลับบ้านแน่นอน! 

ร้านอาหารแนะนำ: เติมพลังที่ Trailhead Cafe ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้าน Lake Louise เลย บรรยากาศอบอุ่น จะเลือกทาน Mountain Breakfast Sandwich หรือ Blueberry Pancake ก็อิ่มอร่อยทั้งนั้น อย่าลืมสั่งกาแฟสักแก้ว รสชาติดีงามมาก!  

หลังจากชมความงามของ Lake Louise ช่วงบ่ายเดินทางต่อไปที่ Moraine Lake ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ทะเลสาบนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางยอดเขาสุดอลังการ เป็นจุดถ่ายรูปที่ใครๆ ก็อยากมา ยิ่งช่วงบ่ายๆ แบบนี้ แสงแดดทำให้วิวดูเกินบรรยายมาก แนะนำให้ลองเดินขึ้นไปที่ Rockpile เพื่อชมวิวพาโนรามาที่สวยงามที่สุดของทะเลสาบนี้ 

ร้านอาหารแนะนำ: สำหรับมื้อกลางวัน แนะนำร้าน Laggan's Mountain Bakery & Delicatessen ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางจาก Lake Louise มายัง Moraine Lake ร้านนี้มีขนมปังอบสดใหม่และแซนด์วิชอร่อย ๆ แนะนำเมนู Chicken Pesto Sandwich พร้อมของหวานเป็น Cinnamon Bun ที่ขึ้นชื่อ 

ได้เวลาปิดท้ายวันกันแล้ว ขับรถจาก Moraine Lake ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ไปผ่อนคลายที่ Banff Upper Hot Springs กันดีกว่า ช่วงเย็นๆ แบบนี้ เหมาะสุดๆ ที่จะมาแช่น้ำแร่ อากาศเย็นสบาย แถมยังได้ชมพระอาทิตย์ตก มองวิวภูเขารอบๆ สวยจนลืมเหนื่อย หลังจากแช่น้ำแร่สบายตัวแล้วก็ไปปิดวันที่ร้านอาหารในเมือง คุยเรื่องราวประทับใจของวันนี้กันเพลินๆ ถือเป็นการจบทริปที่สมบูรณ์แบบ 

ร้านอาหารแนะนำ: ร้าน The Maple Leaf กันเถอะ ร้านนี้อยู่ในตัวเมือง Banff เสิร์ฟอาหารแคนาเดียนแท้ๆ เลย ลองสั่ง Alberta Bison Ribeye เนื้อนุ่มฉ่ำ รสชาติเข้มข้น หรือถ้าชอบปลา Maple Glazed Salmon ก็อร่อยไม่แพ้กัน หอมหวานกำลังดี 

ที่พักน่านอนใน Banff

กันยายน เที่ยวไหนดี? ขอชวนไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของสาธารณรัฐเช็กในเดือนกันยายนนี้ที่ปราก!  เมืองสวย ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล ช่วงนี้อากาศดี นักท่องเที่ยวก็ไม่เยอะเท่าหน้าร้อน ทำให้คุณได้ชื่นชมความงามของปรากแบบชิลๆ ที่เด็ดสุดๆ คือได้เห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี เพิ่มสีสันให้เมืองสวยยิ่งขึ้นไปอีก  


วันนี้ราจะพาคุณไปเที่ยวรอบปราก รับรองว่าคุณจะตกหลุมรักเมืองนี้แน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดื่มด่ำกับความงามของปรากกัน! 

เริ่มต้นวันของคุณด้วยการเยือนปราสาทปราก (Prague Castle) สถานที่อันเป็นหัวใจของกรุงปรากและได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเยือน เพราะแสงแดดอ่อนๆ จะทอประกายลงมา เผยให้เห็นความงดงามอันน่าทึ่งของสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิหารเซนต์วิตัสที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในบริเวณปราสาท อย่าลืมแวะเยี่ยมชมสวนรอบๆ คุณจะได้สัมผัสกับความเงียบสงบและชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองปรากที่ทอดยาวไปสุดสายตา เก็บภาพกันให้หนำใจในช่วงครึ่งเช้านี้  

ร้านอาหารแนะนำ: แวะทานอาหารเช้าที่ Café Savoy ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Prague Castle ที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ยุโรป เมนูแนะนำคือ Eggs Benedict และ French Toast พร้อมกาแฟสดที่เข้ากันได้อย่างลงตัว 

ช่วงบ่ายนี้เดินทางต่อ ไปที่ The Strahov Monastery หนึ่งในสถานที่สถานที่อันทรงคุณค่าที่จะพาจะพาคุณย้อนเวลากลับไปยุครุ่งเรืองของปราก เหมือนได้เดินทางข้ามกาลเวลาเลย ไฮไลท์ของที่นี่คือห้องสมุด Strahov Library ที่เก็บหนังสือเก่าแก่และงานศิลปะสุดอลังการเอาไว้ บรรยากาศรอบๆ ของผนังห้องสมุดที่ประดับประดาด้วยภาพเขียนสีเฟรสโก้และชั้นหนังสือไม้แกะสลักที่เรียงรายไปด้วยตำราโบราณ ล้วนเล่าเรื่องราวแห่งอดีตได้อย่างมีชีวิตชีวา 

ที่นี่ไม่ได้แค่สวยอย่างเดียวนะ ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์คริสต์ศาสนาในเช็กด้วย คุณจะได้ซึมซับเรื่องราวความเชื่อและวัฒนธรรมที่หล่อหลอมคนเช็กมาอย่างยาวนาน การมาช่วงบ่ายแบบนี้ดีตรงที่คุณไม่ต้องรีบร้อน ได้เดินชมชิลๆ ซึมซับบรรยากาศเงียบสงบแบบสบายอารมณ์ ซึมซับบรรยากาศอันสงบและศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเต็มอิ่ม ใครชอบถ่ายรูปก็ได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน 

ร้านอาหารแนะนำ: แวะทานมื้อกลางวันที่ Kuchyň ร้านอาหารที่มีวิวสวยงามของเมืองและปราสาท เมนูที่ไม่ควรพลาดคือ Svíčková สตูว์เนื้อสไตล์เช็กที่เคี่ยวจนนุ่ม ราดซอสครีมรสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมขนมปังและแครนเบอร์รี่ ทานคู่กับ Pilsner Urquell เบียร์สดชื่อดังของเช็ก รสชาติกลมกล่อม หอมกรุ่นด้วยกลิ่นฮอปส์ 

สำรวจไฮไลท์ของปรากกันจนเต็มอิ่ม ช่วงบ่ายแก่ๆ ค่อนไปทางเย็น เรามาปิดท้ายทริปแบบสุดชิลๆกันดีกว่า!  ไปเดินเล่นบนสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานหินโบราณที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำวัลตาวา ต่อด้วยจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่นี่เรียกว่าเป็นหัวใจของปรากเลยก็ว่าได้ มีตึกเก่าๆ สวยๆ เต็มไปหมด แต่ที่เด็ดสุดๆ ต้องยกให้นาฬิกาดาราศาสตร์ ตั้งเด่นอยู่บนหอนาฬิกาเก่าแก่ 

ยิ่งในเย็นที่ ที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงสีทองจะสาดส่องลงมาแบบสวยสุดๆ เหมือนหลุดเข้าไปในภาพวาดเลยล่ะ คุณจะได้ชมวิวของแม่น้ำและตัวเมืองที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากแสงกลางวันเป็นแสงไฟยามค่ำคืนอย่างช้าๆ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเล่น สำรวจตรอกซอกซอยเล็กๆ รับรองว่าจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของปรากแบบเต็มๆ  

ร้านอาหารแนะนำ: แนะนำให้ทานอาหารที่ Lokál U Bílé kuželky ร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารเช็กแบบดั้งเดิม เเมนูเด็ดที่ต้องสั่งคือ Roast Duck with Dumplings นี่แหละ เป็ดย่างหนังกรอบ เนื้อนุ่มฉ่ำ กินคู่กับขนมปังก้อนนุ่มๆ บอกเลยว่าฟินสุดๆ กินคู่กับเบียร์เช็กสดๆ ปิดท้ายวันได้อย่างสมบูรณ์ 

ที่พักน่านอนในปราก

กิจกรรมน่าลองในปราก

ที่เที่ยวต่างประเทศ อีกแห่ง ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะสำหรับสายรักทะเลและชายหาด เพราะเราจะพาไปเที่ยวชายฝั่ง Dalmatian โครเอเชีย! เดือนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบาย อยู่ที่ประมาณ 16-24 องศา! ทะเลใสกิ๊ง นักท่องเที่ยวก็เบาบางลงหลังหน้าพีค ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับทุกกิจกรรมแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมเกาะสวยๆ ดำน้ำดูปะการัง หรือเดินเที่ยวเมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมสุดอลังการ  

เริ่มต้นวันของคุณด้วยการเดินเล่นในเขตเมืองเก่าของดูบรอฟนิก หรือ Old Town Dubrovnik เมืองโบราณที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้กำแพงเมือง Dubrovnik City Walls ที่มีอายุเก่าแก่ สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 แล้ว สามารถเดินเล่นบนกำแพงได้รอบเมืองเลย ระยะทางประมาณ 2 กิโล ไม่ไกลมาก แต่วิวที่ได้นี่คุ้มสุดๆ ทั้งตัวเมืองเก่าและทะเลสวยๆ แนะนำให้มาตอนเช้าๆ นะ อากาศกำลังเย็นสบาย แถมยังไม่ต้องเบียดคนเยอะด้วย ได้รูปสวยๆ แน่นอน 

ในเมืองเก่ายังมีที่เที่ยวเด็ดๆ อีกเพียบ อย่างเช่น Rector's Palace พระราชวังเก่าที่เคยเป็นที่อยู่ของผู้ว่าฯ เมืองนี้ หรือ Sponza Palace ที่เป็นตึกสไตล์เรเนซองส์สุดอลัง หรือ Church of St. Blaise โบสถ์ที่เป็นเหมือนหัวใจของเมือง 

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศในเมืองมากขึ้น ก็ลองเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยดูรับรองว่าจะต้องตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณที่สวยงามแปลกตา เดินไปถ่ายรูปไป แวะชิมขนมท้องถิ่นบ้าง นั่งจิบกาแฟในร้านเก๋ๆ บ้าง รับรองว่าจะเป็นช่วงเช้าที่แสนพิเศษแน่นอน  

ร้านอาหารแนะนำ: ไปทานมื้อเช้าที่ Gradska kavana Arsenal Restaurant ร้านนี้ตั้งอยู่ในใจกลาง Old Town วิวสวยมาก มองเห็นท่าเรือเก่าแก่ของเมืองได้ด้วย ลองสั่งไข่เบเนดิกต์ เหมาะกับยามเช้า หรือถ้าใครชอบของท้องถิ่น ลองสั่งขนมปังโครเอเชียแบบดั้งเดิม กรอบนอกนุ่มในดู แล้วก็อย่าลืมสั่งกาแฟหอมกรุ่น รสชาติกลมกล่อม ดื่มพร้อมชมวิวสวยๆ  

ช่วงบ่ายนี้ เราจะพาคุณไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของทะเล Adriatic กันบ้าง ที่ Blue Planet Diving Center ที่ที่จะทำให้คุณตะลึงกับความงามใต้ท้องทะเล! สามารถเลือกว่าจะดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึก ไม่ว่าจะแบบไหนก็สนุกแน่นอน 

ไปลอยตัวอยู่ในน้ำทะเลใสแจ๋ว มองเห็นปลาสีสันสวยงามว่ายวนไปมา ปะการังหลากสีที่โบกไหวตามกระแสน้ำ น้ำทะเลที่นี่ใสมากๆ เลย มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือนักดำน้ำมืออาชีพ รับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน ใครไม่ใช่สายดำน้ำ จะไปเล่นน้ำกันเฉยๆ ก็สนุก สดชื่นได้เหมือนกัน  

ใครที่เป็นสายดำน้ำ อย่าลืม! มาจอยคอมมูนิตี้ของเรา KLUB ดำน้ำ เพื่อติดตามกิจกรรมดำน้ำดีๆ ได้ก่อนใคร แชร์เรื่องราวกับเพื่อนนักดำน้ำเหมือนกันได้ด้วย! 

ร้านอาหารแนะนำ: ร้าน Soul Kitchen Dubrovnik ร้านนี้มีทั้งที่นั่งในร่มและกลางแจ้งให้เลือก ถ้าได้นั่งด้านนอกนี่ วิวสวยมาก มองเห็นทะเลเลย เมนูที่นี่เด็ดสุดๆ เน้นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์โมเดิร์น ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น รสชาติจัดจ้านถึงใจแน่นอน ลองสั่ง Black Risotto ดูสิ ข้าวอิตาเลี่ยนสีดำจากหมึก อร่อยจนต้องเลียจาน! หรือถ้าชอบซีฟู้ด Grilled Octopus ที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน นุ่มหวานกำลังดี อย่าลืมสั่งไวน์ท้องถิ่นมาจิบคู่กับอาหารด้วยนะ เข้ากันได้ดีมาก 

 

หลังจากวันที่แสนสนุกและเหนื่อยล้า เรามาปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตกที่ Fort Lovrijenac ป้อมปราการโบราณนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนหน้าผาสูง ใกล้ๆ เมืองเก่า พอตกเย็น บอกเลยว่าวิวที่นี่สวยสุดยอด! คุณจะได้เห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงสีทองทาบทาไปทั่วท้องทะเล Adriatic แถมยังมองเห็นกำแพงเมืองเก่าด้วย บรรยากาศที่นี่เงียบสงบมาก โรแมนติกสุดๆ เหมาะมากสำหรับการมานั่งชิลล์ เก็บภาพสวยๆ หรือแชะรูปกันเยอะๆ  

ร้านอาหารแนะนำ: ไปปิดท้ายด้วยมื้อเย็นที่ Proto Fish Restaurant กันเถอะ! ร้านนี้อยู่ในเมือง เสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ จากท้องถิ่น อร่อยมาก ลองสั่ง Grilled Sea Bass ปลากระพงย่างหอมกรุ่น เนื้อนุ่มฉ่ำ หรือถ้าชอบของแปลกหน่อย Octopus Salad ก็เด็ดไม่แพ้กัน หมึกนุ่มๆ กับผักสดกรอบ รสชาติกลมกล่อมสุดๆ 

ชายฝั่ง Dalmatian ยังมีอีกหลายเมืองที่รอให้คุณไปสำรวจ อย่างเมือง สปลิท (Split) เมืองใหญ่อันดับสองของโครเอเชีย ที่มีพระราชวังโบราณสุดอลังการ หรือซิเบนิก (Sibenik) เมืองเล็กๆ ที่มีมหาวิหาร St. James สุดตระการตา แล้วยังมีโทเกียร์ (Trogir) เมืองเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และฮวาร์ (Hvar) เกาะสวรรค์ที่เต็มไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์และชายหาดสุดฟิน ถ้าได้มาถึงโครเอเชียทั้งที แนะนำให้ลองแวะไปหลายๆ เมือง เพราะแต่ละที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน รับรองว่าคุณจะหลงรักทุกเมืองแน่นอน! 

ที่พักน่านอนใน Dubrovnik

กิจกรรมน่าลองใน Dubrovnik

น่าจะหมดคำถามกันแล้วว่า กันยายน เที่ยวไหนดี? เชื่อว่า 5 ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนกันยายนที่เราแนะนำทำให้คุณได้คำตอบกันแล้ว ตอนนี้ก็คงเหลือแค่แพลนทริปเท่านั้น! จองเที่ยวบิน ที่พัก กิจกรรมน่า กับ Gother แล้วออกไปเปิดประสบการณ์ดีๆ ไปพร้อมกันเลย!