พาสำรวจสวรรค์ใต้ท้องทะเล สไตล์ครูพีแห่ง Scuba Paradive

“ความรู้สึกเวลาได้ดำน้ำ มันเป็นความสงบที่ไม่วุ่นวาย มีสิ่งเดียวที่เราได้ยินคือ…เสียงลมหายใจของตัวเอง และยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเลไปพร้อมกัน” และนี่คือสิ่งที่ครูพี แห่งโรงเรียน Scuba Paradive ได้บอกความรู้สึก เมื่อเราได้ถามถึงความสุขของการดำน้ำ บทความนี้ Gother จะพาไปรู้จักการเดินทางของครูพี แห่ง Scuba Paradive จากแค่ดำน้ำเป็นงานอดิเรก จนกลายมาเป็นอาชีพครูสอนดำน้ำ (Scuba Diving Instructor) ที่หลาย ๆ คนรู้จักในนาม ครูพี แห่ง Scuba Paradive ในปัจจุบัน

ครูพีเล่าว่าในอดีตครูพีเคยทำงานในบริษัท ส่วนเรื่องการดำน้ำเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่อยากลองทำตั้งแต่ตอนเด็กเท่านั้น พอดีได้จังหวะไปลองเรียนกับเพื่อน ๆ จากนั้นสิ่งที่คิดว่าอยากทำ กลับกลายมาเป็นความหลงใหลถึงขนาดเก็บเอาไปฝัน จนกระทั่งวันนึงที่ครูพีเริ่มรู้สึกหมดไฟจากการทำงาน จึงตัดสินใจลาออกจากงาน มาพักหนึ่งเดือนที่เกาะเต่า เพื่อไปเรียนคอร์ส Divemaster (ผู้ช่วยครูดำน้ำ) จากที่คิดไว้แค่ไม่กี่เดือน กลับกลายเป็นปีกว่า แต่ทว่าพอกลับมากรุงเทพฯ ก็กลับว้าวุ่นใจ จึงได้ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง แน่วแน่ว่าจะกลับไปสานต่อความตั้งใจในการเป็นครูสอนดำน้ำอย่างจริงจัง จนกลายมาเป็น Scuba Paradive ที่เรารู้จักกันดีอย่างทุกวันนี้

ครูพีได้กล่าวให้ฟังถึงความรู้สึกเวลาดำน้ำว่า มันเป็นความสงบที่ไม่วุ่นวาย สิ่งเดียวที่ได้ยินคือ เสียงลมหายใจตัวเอง และยังได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเลไปพร้อม ๆ กัน โดยปกติแล้วการดำน้ำยังมีอีกหลายรูปแบบ ทั้งการดำน้ำตื้น และการดำน้ำแบบ Free Dive ที่จะใช้วิธีกลั้นลมหายใจของเรา ซึ่งจะดำได้ในระยะเวลาแค่สั้น ๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมครูพี ถึงเลือกที่จะดำน้ำแบบสกูบาแทน เพราะครูพีอยากจะหยุดช่วงเวลาที่ดีที่สุดไว้ให้นานที่สุด ได้แหวกว่ายด่ำดิ่งฟังเสียงลมหายใจของตัวเองได้แบบเต็มอิ่มนั่นเอง จึงเป็นที่มาของความหลงใหลการดำน้ำสกูบา (Scuba Diving) เป็นชีวิตจิตใจ

ครูพีเคยสำรวจความงดงามใต้ทะเลไทยมามากมาย หลายต่อหลายที่ล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำแทบทั้งสิ้น เราจึงไม่รอช้าขอให้ครูพีช่วยแชร์พิกัดเด็ด สำหรับดำน้ำสกูบาให้เราได้ฟัง ครูพีเล่าอย่างมีความสุข ปนการเชื้อเชิญให้เราออกทริปตามว่า บริเวณอ่าวไทย มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจหลายจุด ทั้งจุดดำน้ำ หินใบ (Sail Rock) ที่โดดเด่นด้วยหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำคล้ายกับเรือใบ ที่มาพร้อมความพิศวงของปล่องไฟ ซึ่งเป็นอุโมงค์ให้นักดำน้ำได้เดินทางเข้าไปสำรวจ ด่ำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเล โดยจะมีทางออกจากปล่องไฟที่ความลึก ระดับ 18 เมตร หรือที่ เกาะโลซิน เองก็สวยงาม ใต้ผืนน้ำของเกาะแห่งนี้ มีทุ่งปะการังขนาดใหญ่เหมือนสนามฟุตบอล มีฝูงปลาและสัตว์ทะเลมากมายแหวกว่าย นักดำน้ำมีโอกาสได้พบฉลามวาฬได้ไม่ยาก นับเป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นที่นักดำน้ำจะได้พบในบริเวณนี้ และจุดดำน้ำ เกาะช้าง ที่เอาเรือหลวงช้างที่ปลดประจําการ มาจมลงใต้ทะเลเพื่อเป็นแหล่งปะการังเทียม ลองจินตนาการดูว่าการได้แหวกว่ายรอบ ๆ ซากเรือที่ใหญ่ที่สุดในไทย มันจะตื่นตา และเร้าใจขนาดไหน

ในฝั่งอันดามันเอง ก็มีจุดดำน้ำหลายแห่ง เช่น กองหินริเชลิว (Richelieu Rock) ที่เคยติดหนึ่งในสิบจุดดำน้ำที่สวยงามระดับโลก เรียกว่าถ้าไม่มาเหมือนไม่ถึงอันดามันเหนือ สำหรับจุดต่อไปเป็นจุดดำน้ำ เกาะบอน มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการพบกับปลากระเบนราหู (Manta rays) และปลาโรนัน ส่วนจุดดำน้ำ เกาะตาลัง (Stonehenge) ที่เพื่อน ๆ นักดำน้ำจะได้พบกับ ความสวยงามของสโตนเฮนจ์ ที่ปกติจะได้พบเจอกันบนบก ในประเทศอังกฤษ แต่วันนี้คุณจะได้พบกับสโตนเฮนจ์ ในน้ำที่ไทย ที่ปกคลุมด้วยทุ่งปะการังอ่อน (Soft coral) หลากสีสัน คิดดูสิจะสวยขนาดไหนความสวยงามสุดท้ายที่ครูพีอยากแนะนำเช่นกัน ก็คือจุดดำน้ำบริเวณ เกาะห้า มีจุดให้เลือกดำน้ำค่อนข้างเยอะ และมีถ้ำใต้น้ำลับ ที่นักดำน้ำนิยมจะไปถ่ายรูป Silhouette แบบย้อนแสง ไม่ไกลจากตรงนี้จะมีจุดที่ชื่อว่า หินม่วงหินแดง สามารถว่ายน้ำไปได้ระหว่างหินม่วงและหินแดง ที่นี่เป็นจุดที่ครูพีได้พบฉลามวาฬครั้งแรกอีกด้วย

เกือบทุกครั้งที่ครูพีลงไปใต้น้ำ จะพกกล้องติดตัวเพื่อนำไปถ่ายภาพใต้น้ำสวย ๆ ด้วยเสมอ ครูพีเล่าว่าคนดำน้ำที่ชอบถ่ายภาพจะมีด้วยกันสองประเภท คือคนที่รักการถ่ายภาพกว้าง เน้น Landscape ดูสัตว์ใหญ่ ส่วนอีกแนวหนึ่ง เป็นการดูสัตว์ตัวเล็ก ๆ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า นูดี้ (Nudi) หรือพวกทากทะเล นั่นเอง หากใครนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึงภาพสัตว์ทะเลหน้าตาแปลก ๆ แต่น่ารัก สีสันสดใส ตัวเล็กเท่าเม็ดข้าวสารหรือใหญ่แค่ฝ่ามือดู สำหรับครูพีเองก็มีเจออยู่บ้าง แต่ส่วนตัวแล้ว ครูพีเองจะเน้นสาย Landscape มากกว่า

เราไม่รอช้าถามครูพีต่อถึงภาพถ่ายใต้ท้องทะเลที่ชอบที่สุด ครูพีตอบโดยทันทีว่า มีเยอะมากจนไม่รู้จะแชร์ภาพไหนดี เพราะแต่ละรูปล้วนมีความทรงจำที่ดี ๆ แตกต่างกัน บางรูปก็เต็มไปด้วยเรื่องราวของการเจอกันครั้งแรกของสัตว์นั้น ๆ หรืออย่างภาพ ภาพปลาฉลามเสือดาว (Leopard shark) ที่ปกติตามธรรมชาติมักอยู่ตัวเดียว แต่ในวันนั้นที่ครูพีได้พบ คือปลาฉลามเสือดาวสองตัวอยู่ด้วยกัน นับเป็นความทรงจำที่ดียากที่จะรู้ลืม

สัตว์ใต้ทะเลทุกตัวส่วนใหญ่จะค่อนข้างตกใจง่าย ยิ่งเห็นคนก็ยิ่งตกใจ ครูพีแนะนำเทคนิคว่า เวลาจะเข้าไปถ่าย ให้หายใจเบา ๆ และให้เน้นการไหลตัวเข้าไปช้า ๆ ห้ามว่ายเข้าไปเด็ดขาด เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสถ่ายภาพอย่างน้อยสองถึงสามวินาที ก่อนที่สัตว์ต่าง ๆ จะว่ายหนี ครูพีทิ้งท้ายเรื่องการเจอสัตว์ใต้ทะเลว่า โอกาสที่จะได้เจอตามที่เราหวังไว้และได้ถ่ายรูปอีกต้องอาศัยดวงและความโชคดีด้วย เพราะของแบบนี้ไม่สามารถกำหนดได้เลย แม้ว่าเราจะคาดการณ์มาแล้วเป็นอย่างดี หรือมีประสบการณ์ในการดำน้ำสูงก็ตาม เนื่องจากทะเลเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่กว้างมาก โอกาสที่จะได้เจอทุกอย่างที่คาดการณ์มา อาจจะคลาดเคลื่อนไปจากเดิมได้เมื่อถึงจุดดำน้ำ

ครูพีทิ้งท้ายกับเราถึงความสำเร็จที่เขามีต่อตัวเองว่า เขาสามารถทำให้การดำน้ำกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิตเขาได้อย่างที่ตั้งใจ และรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ในวันนั้นเขาเลือกทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ดังนั้น ขอแค่เพื่อน ๆ กล้าที่จะเริ่มทำตามความฝัน ไม่แน่ความฝัน หรืองานอดิเรกในวันนี้ อาจกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตจริงแบบครูพี ก็เป็นได้

มาร่วมเปิดประสบการณ์ พร้อมเก็บภาพความสวยงาม แห่งอาณาจักรใต้ท้องทะเลไปพร้อม ๆ กับ Scuba Paradive และ Gother กันนะคะ รวมถึงใครที่อยากมีโม้เม้นดี ๆ พร้อมลุ้นไปกับเหล่าเพื่อนนักดำน้ำทั้งหลาย ในโลกแห่งใต้ท้องทะเล มาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Gother Diving KLUB คลิกลิงก์ กันนะคะ พื้นที่คอมมูนิตีดี ๆ ที่รวบรวมผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์การเที่ยวและรักในการทำกิจกรรมเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมพบปะเพื่อนใหม่และสิทธิพิเศษไม่ซ้ำใคร เปิดใจเพื่อสิ่งใหม่ ๆ เที่ยวที่ใช่ ตามใจกับ Gother!