check-mark-iconคัดลอกลิงก์ไปที่คลิปบอร์ดแล้ว

มิถุนายน เที่ยวประเทศไหนดี? มัดรวมที่เที่ยวเมืองนอกที่ต้องไปโดน

11 ต.ค. 2024

travel-story-1729250038_9dc9a8ec631431d8f495-0

มิถุนายนเที่ยวไหนดี? ใครที่กำลังวางแผนออกทริปสัมผัสธรรมชาติ และความสวยงามของเมืองนอก บอกเลยว่ามาถูกที่แล้ว เพราะเราจะพาคุณไปสำรวจจุดหมายปลายทางที่ต้องไปโดนในเดือนนี้! ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวต่างประเทศที่อากาศดี วิวสวย หรือกิจกรรมน่าสนุก มัดรวมมาให้หมด ใครพร้อมแล้วไปกันเลย! 

เทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) อิตาลี

เทือกเขาโดโลไมท์เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวต่างประเทศเดือนมิถุนายนที่ห้ามพลาด โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ ในช่วงนี้อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเขาและสำรวจธรรมชาติของอิตาลี ดอกไม้ป่าบนภูเขาก็เริ่มเบ่งบาน สร้างทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา ควรเริ่มต้นในช่วงเช้า ประมาณ 7:00 - 8:00 น. ช่วงเวลานี้อากาศยังคงเย็นสบายและแสงอาทิตย์ยามเช้าจะทำให้ทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ อีกหนึ่งข้อดีของการมาเที่ยวในช่วงนี้คือ จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่หนาแน่นมากนัก ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่และแถมสงบสุข 

travel-story-1729250066_091a1475d2d28e78f4cc-0

เช้า: Lago di Braies 

ตื่นเช้ากันสักนิด แล้วขับรถไปที่ Lago di Braies ที่นี่สวยจนได้ฉายาว่าเป็น "ไข่มุกแห่งโดโลไมท์" เลยทีเดียว!  ช่วงเช้าๆ ประมาณ 6:00 - 8:00 น. นี่เป็นช่วงเวลาที่ดี บรรยากาศจะเงียบสงบมาก ได้ความรู้สึกเหมือนมีทะเลสาบสวยๆ เป็นของตัวเองเลย แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าจะสะท้อนกับผิวน้ำ ทำให้วิวสวยแบบสุดๆ  ลองหามุมถ่ายรูปดีๆ รับรองว่าได้ภาพทะเลสาบสีเขียวมรกตล้อมรอบด้วยภูเขาสูงแบบสวยสะกดตาแน่นอน ที่สำคัญ อย่าลืมหยุดพักสักครู่ สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ แล้วดื่มด่ำกับความงามรอบตัว บอกเลยว่าช่วงเวลาแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ 

ร้านอาหารแนะนำ: Malga Prato Piazza ร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนภูเขา เสิร์ฟอาหารเช้าท้องถิ่นแบบเรียบง่าย ลองสั่ง Cappuccino และ Brioche เติมพลังในมื้อเช้าเบาๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศสดชื่นของภูเขา 

travel-story-1729250095_22d22348ce5d1b47b819-0

สาย:  Tre Cime di Lavaredo 

หลังจากชมความงามของทะเลสาบแล้ว เรามาต่อกันที่ Tre Cime di Lavaredo แลนด์มาร์กเด็ดของโดโลไมท์กันเลย ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างทางก็เพลิดเพลินกับวิวสวยๆ ไปเรื่อยๆ ได้เลย พอไปถึง Tre Cime di Lavaredo รับรองว่าจะต้องทึ่งเพราะคุณจะได้พบกับวิว เขาสามยอดตั้งตระหง่านเรียงกันแบบสวยงาม แถมดีตรงที่เส้นทางเดินเขาที่นี่ไม่ได้ยากมาก เหมาะกับการเดินชิลๆ ชมวิว ถ่ายรูปสวยๆกัน ช่วงสายๆ แบบนี้อากาศกำลังดีเลย ไม่ร้อนเกินไป เดินเล่นสบายๆ ได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ จะรู้สึกเหมือนตัวเองเล็กนิดเดียวท่ามกลางภูเขามหึมาเลย 

ร้านอาหารแนะนำ: Rifugio Auronzo เป็นทั้งที่พักและร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Tre Cime ลองสั่ง Polenta con Funghi ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของแคว้นนี้ หรือจะลอง Canederli ที่รสชาติอร่อยและอุ่นท้องในอากาศเย็นสบาย  

บ่าย: Passo Giau 

หลังจากอิ่มเอมกับความงามของ Tre Cime di Lavaredo แล้ว ก็ได้เวลาไปตื่นตาตื่นใจกับวิวสุดอลังการที่ Passo Giau ระหว่างทางก็เตรียมตัวให้พร้อมกับการขับรถเลาะเลี้ยวไปตามถนนคดเคี้ยว แต่จะได้เห็นวิวสวยแบบจัดเต็ม 

พอไปถึง Passo Giau แล้วก็จะพบกับวิวพาโนรามาของภูเขาและหุบเขาแบบ 360 องศา ช่วงบ่ายแบบนี้ แสงแดดจะทำให้เงาของภูเขาทอดยาว วิวดูยิ่งใหญ่และน่าทึ่งมากขึ้นไปอีก เป็นช่วงเวลาที่เหมาะมากสำหรับการถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก หาจุดชมวิวดีๆ แล้วนั่งพักสักครู่ จิบกาแฟหรือของว่างเบาๆ พร้อมกับดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษนี้ บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่จะตราตรึงใจคุณไปอีกนาน แล้วก็อย่าลืมสวมเสื้อกันลมด้วยนะ บนยอดเขาอาจจะลมแรงนิดหน่อย 

travel-story-1729250113_e20b7870f2b78d81128f-0

เย็น: Cortina d'Ampezzo 

หลังจากชื่นชมวิวสุดอลังการมาทั้งวัน ถึงเวลาผ่อนคลายกันที่ Cortina d'Ampezzo เมืองสวยริมเขาพอขับรถเข้าเมืองมา จะรู้สึกเลยว่าบรรยากาศเปลี่ยนไป จากธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ มาสู่ความอบอุ่นของหมู่บ้านอิตาลีแบบดั้งเดิม น่ารักเอามากๆ ช่วงเย็นแบบนี้ บรรยากาศในเมืองจะสงบลง เหมาะมากสำหรับการเดินเล่นชิลๆ แนะนำให้ไปประมาณ 16:00-18:00 น. นอกจากนั้นแล้วลองแวะไปที่จัตุรัสกลางเมือง อาจจะเจอตลาดท้องถิ่นที่ขายของฝากน่ารักๆ หรือไม่ก็ลองเดินดูร้านค้าเก๋ๆ ในเมืองก็ได้ อย่าลืมเช็คเวลาปิดของร้านค้าและร้านอาหารด้วยนะ ในเมืองเล็กๆ แบบนี้ ร้านอาจจะปิดเร็วกว่าที่คิด 
สุดท้าย ถ้ายังมีแรง ลองเดินขึ้นไปจุดชมวิวใกล้ๆ เมืองดู จะได้เห็นแสงไฟของเมืองยามค่ำคืน เป็นการปิดวันได้สวยงามที่สุด 

ร้านอาหารแนะนำ: El Camineto ร้านอาหารสุดหรูใน Cortina d'Ampezzo เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนแบบฟิวชั่น ลองสั่ง Risotto ai Funghi หรือ Tagliata di Manzo ที่เป็นเมนูแนะนำ 

ที่พักน่านอนใกล้เทือกเขาโดโลไมท์

เลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunen) สวิตเซอร์แลนด์

มิถุนายน เที่ยวไหนดี? เดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการเยี่ยมชมเลาเทอร์บรุนเนิน อากาศช่วงนี้ดีงามมากๆ ไม่ร้อนไม่หนาว พอดิบพอดีประมาณ15-20 องศา เดินเล่นได้สบายๆ ช่วงนี้หิมะบนยอดเขากำลังละลาย ทำให้น้ำตกและลำธารถูกเติมเต็มไปด้วยน้ำใส เย็นฉ่ำ ฟังเสียงน้ำไหลแล้วชื่นใจสุดๆ ดอกไม้ป่ากำลังบานสะพรั่งเต็มหุบเขาเลย สีสันสดใส ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย 

travel-story-1729250148_3ec1ef207737eac90277-0

เช้า: Staubbach Falls 

เริ่มต้นวันด้วยการเดินไปชม Staubbach Falls น้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน ช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการมาเยี่ยมชมน้ำตก เพราะแสงแดดอ่อนๆ จะสะท้อนกับสายน้ำ ทำให้เกิดเป็นประกายระยิบระยับสวยงามมาก บางที อาจจะเห็นรุ้งเล็กๆ ด้วย ระหว่างทางเดินไปน้ำตก ลองฟังเสียงธรรมชาติรอบตัวดู เสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล ผ่อนคลายสุดๆ บรรยากาศเงียบสงบแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน พอเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิว รับรองว่าคุณต้องตะลึง วิวของน้ำตกและหุบเขาสวยเกินบรรยายจริง หามุมถ่ายรูปดีๆ กันให้หนำใจ แต่อย่าลืมวางกล้องลงบ้างแล้วใช้เวลาชื่นชมความงามด้วยตาตัวเองด้วย 

ร้านอาหารแนะนำ: Hotel Oberland ลองสั่ง Rösti (มันฝรั่งทอดแบบสวิส) หรือ แซนด์วิชเนื้อแห้งสไตล์สวิส คู่กับกาแฟร้อน ๆ เพื่อเติมพลังสำหรับการเที่ยวช่วงเช้า 

travel-story-1729250164_39bec06d3bd2abc25e89-0

สาย: Trümmelbach Falls 

จาก Staubbach Falls เราจะเดินทางต่อไปยัง Trümmelbach Falls ซึ่งเป็นน้ำตกใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา น้ำตกนี้เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขาชื่อดังอย่าง Eiger, Mönch และ Jungfrau บอกเลยว่าทันทีที่ได้เข้าชมด้านในน้ำตกจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ การมาชมช่วงสายจะช่วยให้คุณมีเวลาเต็มที่ในการสำรวจและถ่ายภาพทิวทัศน์ที่น่าประทับใจภายใน อย่าลืมเตรียมรองเท้ากันลื่นและเสื้อกันน้ำมาด้วยนะ เพราะภายในอาจจะเปียกและลื่นได้ แล้วก็เตรียมใจให้พร้อมสำหรับพื้นที่แคบๆ ด้วย แต่รับรองว่าประสบการณ์นี้จะคุ้มค่าและน่าจดจำแน่นอน 

ร้านอาหารแนะนำ: Restaurant Weidstübli ตั้งอยู่ใกล้ Trümmelbach Falls ลองสั่งเมนู ฟองดูชีส หรือ แฮมและชีสแรคเลต เมนูยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ รับรองว่าจะได้ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นแท้ ๆ ที่เต็มไปด้วยความอร่อย 

บ่าย: Mürren  

ช่วงบ่าย ไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่หมู่บ้าน Mürren กัน! หมู่บ้านแสนสวยแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งจะต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ระหว่างทาง เตรียมตัวตื่นตาตื่นใจกับวิวสุดอลังการได้เลย พอไปถึง คุณจะได้พบวิวสวยๆ ราวกับภาพวาด มองไปทางไหนก็เห็นยอดเขาสูงตระหง่านของ Jungfrau, Eiger และ Mönch อยู่เบื้องหน้า บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบสงบและผ่อนคลาย เหมาะมากสำหรับการเดินเล่น ชมวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น หรือจะแวะร้านกาแฟน่ารักๆ นั่งจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ พลางชมวิวภูเขาก็เพลินไปอีกแบบ  

คาเฟ่แนะนำ: Café Liv ใน Mürren ลองสั่ง เค้กแอปเปิ้ล คู่กับกาแฟสวิสแบบดั้งเดิม เป็นของว่างยามบ่ายที่เข้ากันได้ดีกับวิวภูเขา 

travel-story-1729250193_be70f8d6e6425c19c67e-0

เย็น: Valley Hostel Lauterbrunnen 

เย็นย่ำแล้ว เรากลับมาที่หมู่บ้าน Lauterbrunnen กัน หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการผจญภัย นี่เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับการผ่อนคลายและซึมซับบรรยากาศของหมู่บ้านแสนสวยแห่งนี้ ลองเดินเล่นชิลๆ ตามถนนในหมู่บ้าน ชมบ้านเรือนสวิสดั้งเดิมที่แสนน่ารัก ระหว่างทางอาจจะแวะช้อปของฝากที่ระลึกจากร้านค้าท้องถิ่นเล็กๆ 

จากนั้นไปพักที่ Valley Hostel Lauterbrunnen ที่พักชื่อดังของหมู่บ้านนี้ ที่นี่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยมากๆ เลยล่ะ หาที่นั่งสบายๆ แล้วรอชมแสงสุดท้ายของวันที่สาดส่องลงมาบนยอดเขาสูง ภาพตรงหน้าคุณจะสวยจนประทับใจไม่รู้ลืม บรรยากาศอบอุ่นและความเป็นกันเองของที่พักแห่งนี้ ผสมผสานกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขา ถือเป็นวิธีปิดท้ายทริปแบบชิลๆ ที่สมบูรณ์แบบมาก 

ร้านอาหารแนะนำ: Restaurant Schützen ลองทานเมนู Zürcher Geschnetzeltes เนื้อลูกวัวในซอสครีม เสิร์ฟคู่กับข้าวหรือมันฝรั่ง เป็นมื้อเย็นสุดพิเศษที่ช่วยปิดท้ายวันได้อย่างลงตัว 

ที่พักน่านอนใกล้เลาเทอร์บรุนเนิน

สฟาลบาร์ (Svalbard) นอร์เวย์

ถ้าหากถามถึงที่เที่ยวต่างประเทศในเดือนมิถุนายนที่เป็นสวรรค์สำหรับนักผจญภัย “สฟาลบาร์ (Svalbard)” ก็ต้องเป็นหนึ่งในคำตอบ! ในเดือนนี้ คุณจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของอาร์กติกอย่างเต็มอิ่ม อากาศที่อุ่นขึ้นทำให้น่าออกไปสำรวจธรรมชาติ ล่องเรือชมสัตว์ขั้วโลก และที่สำคัญเดือนนี้มีไฮไลท์คือ Midnight Sun หรือพระอาทิตย์เที่ยงคืน ที่ทำให้ฟ้ามีแสงสว่างตลอด 24 ชั่วโมง เปิดโอกาสให้คุณได้ดื่มด่ำกับความงามของดินแดนเหนือสุดขอบโลกได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

travel-story-1729250236_10c7af6958a4b50b1b2d-0

เช้า: Adventfjorden  

เริ่มต้นวันด้วยการไปสำรวจ Adventfjorden ซึ่งเป็นอ่าวที่งดงามล้อมรอบด้วยภูเขา ช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการมาที่นี่้เลย แนะนำให้ไปประมาณ 7:00-8:00 น. เพราะอากาศสดชื่น แสงแดดสะท้อนผิวน้ำทำให้ทิวทัศน์ดูสดใส สูดอากาศกันให้เต็มปอด ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติของขั้วโลกมากขึ้น ก็แนะนำให้เช่าเรือคายัคหรือเข้าร่วมทัวร์ล่องเรือ อาจจะได้เห็นสัตว์ป่าน่ารักๆ อย่างแมวน้ำที่กำลังว่ายน้ำหรือนอนอาบแดดอยู่บนก้อนน้ำแข็ง หรือถ้าโชคดี คุณอาจจะได้เห็นวาฬโผล่ขึ้นมาทักทาย อย่าลืมแต่งตัวให้อบอุ่น ถึงจะเป็นช่วงเช้า แต่อากาศที่นี่ก็ยังหนาวอยู่ดี และถ้าพกกล้องส่องทางไกลมาด้วย ก็จะยิ่งช่วยให้เห็นวิวและสัตว์ป่าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  

ร้านอาหารแนะนำ: Fruene คาเฟ่ยอดนิยมใน Longyearbyen ลองสั่ง Smoked Salmon Sandwich หรือ Cinnamon Bun พร้อมกาแฟร้อนๆ เป็นมื้อเช้าที่เติมพลังและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในเมือง 

travel-story-1729250294_e5cdd4d2dd448c7c7e3e-0

สาย: Svalbard Museum 


หลังจากสัมผัสธรรมชาติอันงดงามของ Adventfjorden ในตอนเช้า เรามาต่อกันที่ Svalbard Museum พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะช่วยเติมเต็มความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับสฟาลบาร์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น 

ช่วงสายแบบนี้เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ คุณจะได้ใช้เวลาสำรวจและเรียนรู้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อน ภายในพิพิธภัณฑ์ คุณจะได้พบกับนิทรรศการที่น่าสนใจมากมาย ทั้งเรื่องราวของวิถีชีวิตในเขตอาร์กติก และประวัติศาสตร์การสำรวจขั้วโลกเหนืออันน่าตื่นเต้น 

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์ป่าในท้องถิ่น โดยเฉพาะหมีขั้วโลก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสฟาลบาร์ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรม ถิ่นที่อยู่ และความสำคัญของสัตว์ชนิดนี้ต่อระบบนิเวศในอาร์กติก นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับธรณีวิทยาและสภาพภูมิอากาศของสฟาลบาร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมดินแดนแห่งนี้จึงมีลักษณะเฉพาะตัวเช่นนี้ 

ร้านอาหารแนะนำ: Restaurant Kroa ลองเมนูท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใครอย่าง Reindeer Burger หรือ Whale Steak ซึ่งเป็นเมนูเฉพาะของนอร์เวย์ รับรองว่าจะเป็นมื้อกลางวันที่น่าประทับใจ 

บ่าย: Svalbard Global Seed Vault 

ช่วงบ่าย แนะนำให้ไปที่ Svalbard Global Seed Vault ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเมล็ดพันธุ์พืชจากทั่วโลกในกรณีเกิดภัยพิบัติ ตัวอาคารของถูกสร้างให้ทอดยาว ลึกเข้าไปในภูเขา เพื่อให้มั่นใจว่าแม้เกิดภัยพิบัติ เมล็ดพันธุ์เหล่านี้จะยังปลอดภัย คุณจะได้เห็นทางเข้าที่ดูเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ และแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่การได้มาเยี่ยมชมภายนอกก็น่าตื่นเต้นมากแล้ว และที่พิเศษไปกว่านั้น ช่วงบ่ายแบบนี้แสงแดดอ่อนๆ จะทำให้วิวรอบๆ สวยงามมากๆ ลองมองไปรอบๆ จะเห็นภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้าทุนดรา และท้องฟ้าสีฟ้าสดใส บรรยากาศดูอบอุ่นและเงียบสงบ ฟินไปอีกแบบ 

เย็น: Trollsteinen 

ปิดท้ายวันด้วยการเดินเขาไปที่  Trollsteinen ซึ่งเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้ Longyearbyen การเดินเขาไปที่นี่ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่คุ้มค่ากับการได้ชมวิวพาโนรามาของหุบเขาและธารน้ำแข็งจากจุดสูงสุด ระหว่างทางสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามของสฟาลบาร์อย่างใกล้ชิด ทั้งพืชพรรณแบบทุนดรา หินผา และอาจจะได้เห็นสัตว์ป่าบ้างเป็นครั้งคราว  

travel-story-1729250322_9bd806decccae0533855-0

และที่พิเศษสุดๆ คือ การได้ชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนจากจุดนี้! พระอาทิตย์จะไม่ตกดิน แต่จะลอยต่ำอยู่เหนือขอบฟ้า ทำให้ท้องฟ้าและภูมิประเทศรอบตัวถูกย้อมด้วยแสงสีทองอ่อนๆ ตลอดเวลา ภาพนี้สวยจนคุณอาจจะลืมหายใจไปเลย 

ร้านอาหารแนะนำ: Huset Restaurant ร้านอาหารหรูที่เสิร์ฟเมนูท้องถิ่น เช่น Arctic Char ปลาแซลมอนอาร์กติก และ Seal Meat ที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เป็นมื้อเย็นที่ปิดท้ายการเดินทางอย่างสมบูรณ์แบบ 

ทาเตยามะ (Tateyama) ญี่ปุ่น

ที่เที่ยวต่างประเทศอย่าง "ทาเตยามะ" ในเดือนมิถุนายนนี้ คือสวรรค์ของนักเดินทางที่รักธรรมชาติญี่ปุ่นและอากาศเย็นสบาย กำแพงหิมะอันโด่งดังยังคงหลงเหลือให้ชม ขณะที่ดอกไม้ก็เริ่มบานสะพรั่ง สร้างภาพความงามที่ตัดกันอย่างน่าทึ่ง ทะเลสาบสะท้อนภาพขุนเขาราวกับกระจกใส ชวนให้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม ที่พิเศษคือช่วงนี้ไม่พลุกพล่านเท่าไฮซีซั่น ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับความสงบและความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม นับเป็นช่วงเวลาที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนและผจญภัยท่ามธรรมชาติสุดอลังของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง 

travel-story-1729250406_0aaf899dd8e8e078ca45-0

เช้า: Tateyama Snow Corridor 

เริ่มต้นวันด้วยการขึ้นไปที่ Tateyama Snow Corridor (กำแพงหิมะทาเตยามะ) ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของภูเขาทาเตยามะ แนะนำให้ไปเช้าๆ เพราะแสงแดดยามเช้าจะทำให้เห็นกำแพงหิมะที่สูงตระหง่านขาวระยิบระยับสวยงามเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่คนยังไม่มาก ทำให้สามารถเดินชมและถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่ กำแพงหิมะในเส้นทางทาเตมายะ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่กลางเมษายนไปจนถึงปลายพฤศจิกายน ใครชอบอากาศหนาวจัดก็แนะนำให้มาช่วงแรกๆ แต่ในเดือนนี้ก็ยังสามารถชมได้อยู่ แถมอากาศก็อุ่นขึ้น ดื่มด่ำกันได้แบบฟินๆ  

ร้านอาหารแนะนำ: Murodo Station มีร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเรียบง่ายแต่เติมพลังได้ดี เช่น ราเมงร้อนๆ หรือ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซึ่งเข้ากันกับอากาศเย็นของภูเขา 

travel-story-1729250427_d9d0070ffb34306c26c6-0

สาย: Mikurigaike Pond 

หลังจากตื่นตาตื่นใจกับกำแพงหิมะทาเตยามะแล้ว เรามาต่อกันที่ Mikurigaike Pond กัน ทะเลสาบ แห่งนี้อยู่ไม่ไกลเลย พอเดินทางมาถึง Mikurigaike Pond ในช่วงสาย สิ่งแรกที่จะทำให้คุณตะลึงคือสีของน้ำในทะเลสาบ ใสแจ๋วและสีฟ้าสดใส แล้วยิ่งมีเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลังด้วย สวยราวกับภาพวาด ไปเดินรอบๆ ทะเลสาบ ซึมซับบรรยากาศ แต่ละมุมจะให้วิวที่สวยแตกต่างกันไป 

ร้านอาหารแนะนำ: Hotel Tateyama ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Mikurigaike Pond ลองสั่ง ชุดปลาย่าง หรือ โซบะ ที่นี่จะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ ทำให้อาหารที่เสิร์ฟมีกลิ่นอายของธรรมชาติ 

travel-story-1729250443_d209d6055cff7fbda5eb-0

บ่าย: Daikanbo Tateyama 

หลังจากมื้อกลางวันแสนอร่อย เรามาเติมพลังใจกันต่อที่ Daikanbo Tateyama จุดชมวิวแห่งนี้จะทำให้คุณตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นแน่นอน เริ่มต้นด้วยการนั่งกระเช้าจาก Murodo ลงมา ระหว่างทางจะได้เห็นภูเขาสูงตระหง่าน หุบเขาลึก และป่าไม้สลับกับหย่อมหิมะที่ยังคงหลงเหลืออยู่ สวยงามจนอาจทำให้คุณลืมหายใจไปชั่วขณะเลย พอมาถึง Daikanbo ในช่วงบ่าย คุณจะได้เห็นวิวพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นแบบ 360 องศา แสงแดดยามบ่ายจะทำให้เงาของภูเขาทอดยาว สร้างความคมชัดและมิติให้กับทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม 

คาเฟ่แนะนำ: Tateyama Café เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่ Daikanbo ลองสั่ง Matcha Latte และขนมโมจิ ทานพร้อมชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาของเทือกเขา 

เย็น: Bijodaira   

ปิดท้ายวันด้วยการเดินทางกลับมายัง Bijodaira ในช่วงเย็น จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศทันที ที่นี่เป็นป่าธรรมชาติที่เขียวขจี ที่อยู่เชิงเขาทาเตยามะ ในเดือนมิถุนายนแบบนี้ ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ กำลังเบ่งบาน สวยงามเอามากๆ ลองเดินเล่นตามเส้นทางในป่า สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดลึกๆ คุณจะได้กลิ่นหอมของป่าและดอกไม้ป่า เป็นกลิ่นที่สดชื่นและผ่อนคลายจริงๆ อากาศยามเย็นก็เย็นสบาย เหมาะมากสำหรับการเดินเล่นพักผ่อน ปิดท้ายวันดีๆ ของทริปที่ทาเตยามะ 

ร้านอาหารแนะนำ: Restaurant Tateyama ที่ Bijodaira เสิร์ฟอาหารท้องถิ่น เช่น ปลาน้ำจืดย่าง และ เท็มปุระผักสด เป็นมื้อเย็นที่อิ่มอร่อยและเต็มไปด้วยรสชาติของธรรมชาติ 

ที่พักน่านอนใกล้ทาเตยามะ

ซิดนีย์ (Sydney) ออสเตรเลีย

มิถุนายนเที่ยวประเทศไหนดี? ซิดนีย์ในเดือนมิถุนายนเป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลอีกที่ เพราะอากาศเย็นสบาย อยู่ในช่วงฤดูหนาวออสเตรเลีย เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมือง ไฮไลท์สำคัญคือเทศกาล Vivid Sydney ที่เนรมิตเมืองด้วยแสงสีตระการตา โดยเฉพาะที่โอเปร่าเฮาส์อันเลื่องชื่อ คุณจะได้เพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่แออัด พร้อมโอกาสชมวาฬที่อพยพผ่านชายฝั่ง ในขณะที่พิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ต่างๆ จัดแสดงนิทรรศการพิเศษรับฤดูหนาว ที่สำคัญ ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินในช่วงนี้ยังเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ ทำให้การเยือนซิดนีย์ในเดือนมิถุนายนเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับนักเดินทางทุกคน 

เช้า: Royal Botanic Garden  

เริ่มวันด้วยการเดินเล่นที่ Royal Botanic Garden สวนสวยใจกลางเมืองนี้เหมาะมากสำหรับการสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า คุณจะได้ชมพืชพรรณหลากหลายและเพลิดเพลินกับบรรยากาศเงียบสงบ อย่าลืมแวะจุดชมวิวที่มองเห็นอ่าวซิดนีย์ด้วยนะ วิวตอนเช้าสวยมาก! การได้เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและพร้อมสำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันแน่นอน 

ร้านอาหารแนะนำ: The Terrace คาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ เสิร์ฟอาหารเช้าแบบเรียบง่าย ลองสั่ง สโคนกับแยมและครีม หรือ Avocado Toast คู่กับกาแฟร้อนๆ 

travel-story-1729250464_c38ec6b8409138de3374-0

สาย: Sydney Harbour Bridge 

หลังจากเพลิดเพลินกับความสดชื่นในสวนพฤกษศาสตร์ ช่วงสายนี้เดินข้าม Sydney Harbour Bridge กัน! ที่นี่หนึ่งในสะพานที่มีชื่อเสียงระดับโลก แสงแดดยามสายที่สะท้อนกับผิวน้ำในอ่าวซิดนีย์จะวิวที่งดงามตระการตา ระหว่างเดินบนสะพาน ก็จะได้ชมวิวพาโนรามาของตัวเมืองซิดนีย์และ Opera House จากมุมสูง ซึ่งให้มุมมองที่แปลกตาและน่าประทับใจ ถ้าพอมีเวลา ลองจองทัวร์ BridgeClimb เพื่อขึ้นไปชมวิวจากยอดสะพานก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ซึ่งจะให้วิว 360 องศาของซิดนีย์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ  

ร้านอาหารแนะนำ: The Glenmore ร้านอาหารบนดาดฟ้าในย่าน The Rocks ใกล้ Sydney Harbour Bridge ลองสั่ง Grilled Barramundi หรือ Chicken Schnitzel พร้อมจิบเบียร์เย็น ๆ ท่ามกลางวิวสวยๆ ของเมือง 

travel-story-1729250485_a468d8739f65df7d293f-0

บ่าย: Darling Harbour 

ในช่วงบ่าย การเดินทางไปยัง Darling Harbour ย่านนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกสรร ไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ SEA LIFE Sydney Aquarium ซึ่งคุณจะได้ชมสัตว์ทะเลนานาชนิด รวมถึงปลาฉลามและแมวน้ำ หรือหากคุณสนใจสัตว์บก Wild Life Sydney Zoo ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่นี่คุณจะได้พบกับสัตว์ประจำถิ่นของออสเตรเลีย เช่น จิงโจ้ และโคอาลา บรรยากาศยามบ่ายที่ Darling Harbour เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นริมน้ำ แวะชมร้านค้า หรือนั่งพักผ่อนที่คาเฟ่น่ารักๆ นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian National Maritime Museum) สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ทางทะเลอีกด้วย  

เย็น: Sydney Opera House 

ปิดท้ายวันที่ Sydney Opera House สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองซิดนีย์ เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า แสงไฟที่ส่องสว่างบนตัวอาคารจะสะท้อนกับผิวน้ำในอ่าวซิดนีย์ สร้างภาพที่งดงามอลังการสุดๆ ไม่ว่าจะจองตั๋วเข้าชมการแสดงภายในโรงละคร หรือนั่งชิลล์ที่ Opera Bar ดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแสนอร่อย พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกก็ฟินทั้งนั้น  

travel-story-1729250499_722affeaa45d79bc9e3f-0

นอกจากนี้ ถ้ามาช่วงกลางเดือนนี้ ก็มีโอกาสชมการแสดงแสงไฟอันตระการตาจากเทศกาล Vivid Sydney ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วยนะ แสงไฟจะทำให้ Opera House และสถานที่สำคัญอื่นๆ ของเมืองถูกเนรมิตให้กลายเป็นผลงานศิลปะแสงสีที่ยิ่งใหญ่ การปิดท้ายวันที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงเสน่ห์และความมีชีวิตชีวาของซิดนีย์อย่างแท้จริง 

ร้านอาหารเย็นแนะนำ: Opera Bar ที่อยู่ข้าง Sydney Opera House ลองสั่งเมนู Seafood Platter ที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ เช่น กุ้ง หอยนางรม และปู พร้อมจิบไวน์เย็นๆ ในบรรยากาศริมอ่าวที่สวยงาม 

ที่พักน่านอนในซิดนีย์

กิจกรรมน่าลองในซิดนีย์

มิถุนายน เที่ยวไหนดี? จบไปแล้วกับทั้ง 5 ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนมิถุนายน ถูกใจที่ไหนกันบ้าง? แพลนทริปของคุณแล้วออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ กัน! เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน Gother ก็พร้อมตอบโจทย์คุณในทุกเส้นทาง!