พฤษภาคมเที่ยวประเทศไหนดี? แจกที่เที่ยวน่าไปในเดือนพฤษภาคม
02 ต.ค. 2024
พฤษภาคมเที่ยวประเทศไหนดี? เดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมาก เพราะอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ ประเทศ ทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เราจะพาคุณไปพบกับ 6 จุดหมายปลายทางสุดพิเศษ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณในเดือนนี้เต็มไปด้วยความสนุกและประทับใจ มาดูกันว่าที่เที่ยวต่างประเทศในเดือนพฤษภาคมนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง!
ยามานาชิ ญี่ปุ่น
พฤษภาคมเที่ยวประเทศไหนดี? ถ้าอยากสัมผัสความงามของดอกไม้ในบรรยากาศที่ไม่ซ้ำใคร จังหวัดยามานาชิ ญี่ปุ่นคือคำตอบ! เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้กำลังผลิบานอย่างงดงาม อากาศกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป อีกทั้งเทศกาล Fuji Shibazakura หรือเทศกาลชมดอกชิบะซากุระ ก็จัดขึ้นเฉพาะช่วงนี้ โดยปกติจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ดอกชิบะซากุระบานสะพรั่งเป็นพรมสีชมพูเต็มทุ่ง ทำให้ได้ภาพวิวที่น่าประทับใจเป็นพิเศษ มาดูกันว่าที่เที่ยวที่ไหนที่ไม่ควรพลาดบ้าง!
เช้า: ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko)
เริ่มต้นเช้าที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ จุดชมวิวที่สวยงามติดอันดับในญี่ปุ่น ซึ่งคุณจะได้เห็นภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนลงบนผืนน้ำของทะเลสาบในยามเช้า แนะนำให้มาช่วงเช้าประมาณ 7:00-9:00 น. เพราะช่วงเวลานี้ท้องฟ้ามักจะปลอดโปร่ง และอากาศสดชื่น ทำให้วิวที่นี่ดูสงบและงดงามมาก ไม่ว่าจะเดินเล่น ล่องเรือรอบทะเลสาบหรือ นั่งกระเช้าไฟฟ้า Mt. Kachikachi เพื่อชมวิวฟูจิแบบพาโนรามาจากมุมสูง ก็ทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ เป็นการเริ่มต้นวันอย่างผ่อนคลาย
ร้านอาหารแนะนำ: แนะนำทานอาหารเช้าที่ร้าน Houtou Fudou ซึ่งเป็นร้านดังในพื้นที่ ลองสั่งเมนู Houtou Udon เส้นหนานุ่มในซุปมิโสะที่หอมอร่อย รสชาติกลมกล่อมเหมาะกับเติมพลังยามเช้า
สาย: Fuji Shibazakura Festival
หลังจากชื่นชมความงามของทะเลสาบแล้ว เดินทางต่อไปยัง Fuji Shibazakura Festival ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงปลายพฤษภาคม งานเทศกาลนี้มีทุ่งดอกชิบะซากุระ (Pink Moss Phlox) หลายหมื่นต้นบานสะพรั่งปกคลุมทั่วพื้นดินในสีชมพูสดใส บวกภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังทำให้เป็นฉากที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจ การมาช่วงสายทำให้ดอกไม้บานรับแดดกันอย่างเต็มที่และแสงอาทิตย์ยามสายก็ยิ่งช่วยเพิ่มความสวยงามของทุ่งดอกไม้ ถ่ายภาพเก็บโมเมนต์และบรรยากาศกันได้แบบฟินๆ
ร้านอาหารแนะนำ: ลองชิมอาหารที่บูธในงานเทศกาล เช่น สตูเครื่องในไก่ Koshu, ซุปหมู Koshu Fujizakura, ยากิโซบะ Fujinomiya, และอุด้ง Yoshida ที่ทำจากเนื้อม้า
บ่าย: หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai)
หลังจากชมดอกชิบะซากุระ เดินทางต่อไปที่ หมู่บ้านโอชิโนะฮักไค ซึ่งเป็นหมู่บ้านโบราณที่มีบ่อน้ำบ่อน้ำใสไหลเย็นจากภูเขาไฟฟูจิ 8 แห่ง บรรยากาศที่นี่สงบเงียบสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เหมาะกับการเดินเล่นสำรวจหมู่บ้าน ชมบ้านเก่าและธรรมชาติ หรือจะลองชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านค้าริมถนนก็เป็นอีกกิจกรรมที่สนุกและอร่อย
ร้านอาหารแนะนำ: Oshino Hakkai Soba ร้านอาหารท้องถิ่นชื่อดังที่โดดเด่นเรื่อง Soba เส้นสดทำเอง เสิร์ฟพร้อมซุปดาชิหอมกรุ่น มีทั้งแบบร้อนและเย็น เมนูแนะนำคือ Soba เส้นสดคู่กับเทมปุระกรอบ และ Kitsune Udon อุด้งเสิร์ฟพร้อมเต้าหู้ทอด
เย็น: เจดีย์ชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
ปิดท้ายวันด้วยการแวะที่ เจดีย์ชูเรโตะ ซึ่งเป็นเจดีย์ 5 ชั้นที่ตั้งอยู่ในสวนอาราคุระ เซ็นเก็น (Arakura Sengen Park) การเดินขึ้นบันไดประมาณ 400 ขั้นไปยังจุดชมวิวจะคุ้มค่ามากเมื่อคุณได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่งดงามพร้อมกับเจดีย์แดงเป็นฉากหน้า การมาในช่วงเย็นจะทำให้แสงแดดไม่แรงเกินไป และยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย เป็นการปิดวันดีๆ ในยามานาชิ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ร้านอาหารแนะนำ: ลองแวะทานมื้อเย็นที่ร้าน Fujisan Steakhouse ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อสเต็กชั้นดี ลองสั่งเมนู New Zealand Steak หรือ Salmon Fillet ที่ปรุงสดใหม่ เป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบในการปิดท้ายวัน
ที่พักน่านอนในยามานาชิ
กิจกรรมน่าลองในยามานาชิ
เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
ที่เที่ยวประเทศต่างประเทศเดือนพฤษภาคม แห่งที่ 2 ที่อยากแนะนำคือ เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนนี้อากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับการเดินเที่ยวชมเมือง อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 10-20 องศาเซลเซียส เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่สวนและพื้นที่สีเขียวต่างๆ กลายเป็นสีส้ม เหลือง ทอง ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปอีกแบบ นอกจากนี้ เดือนนี้เป็นเดือนที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะมากนัก ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ต่างๆ ได้แบบสบายๆ
เช้า: Royal Botanic Gardens
เริ่มต้นยามเช้าแบบชิลๆ ด้วยการเดินเล่นที่ Royal Botanic Gardens ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมลเบิร์น ที่นี่เป็นสวนสวยร่มรื่น มีทั้งทะเลสาบใสสะอาด ต้นไม้นานาพันธุ์ และมุมนั่งเล่นใต้ร่มไม้เย็นสบาย ลองเดินชมพืชพื้นเมืองออสซี่ หรือจะปูผ้าปิกนิกริมน้ำชมวิวสวยๆ อ่านหนังสือไปพลาง ก็ได้ เป็นที่เที่ยวเพลินๆ ใกล้เมืองที่ไม่ควรพลาด
ร้านอาหารแนะนำ: The Kettle Black ลองชิมเมนู Hotcake Ricotta เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดและน้ำผึ้ง หรือ Avocado Toast ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เหมาะกับบรรยากาศเช้าที่สดใส
สาย: Federation Square
จากสวนพฤกษศาสตร์ เดินทางต่อไปที่ Federation Square ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและศิลปะของเมลเบิร์น ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์อย่าง ACMI ที่มีการจัดแสดงเกี่ยวกับภาพยนตร์และเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์ ช่วงสายๆ แบบนี้ บรรยากาศกำลังดี เหมาะกับการเดินชมตึกรามบ้านช่องที่ทันสมัย แวะดูพิพิธภัณฑ์ รับรองว่าจะได้สัมผัสชีวิตชีวาของเมืองนี้แน่นอน เพราะทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างก็มารวมตัวทำกิจกรรมกันที่นี่
ร้านอาหารแนะนำ: Riverland Bar ร้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยาร์รา (Yarra River) ใกล้กับ Federation Square เป็นสถานที่เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนพร้อมทานอาหารในบรรยากาศกลางแจ้ง เมนูที่แนะนำคือ Fish and Chips แบบออสเตรเลีย Grilled Barramundi และ Aussie Beef Burger
บ่าย: Hosier Lane
ช่วงบ่ายแวะไปที่ Hosier Lane สตรีทอาร์ตแลนด์มาร์กที่มีภาพกราฟฟิตี้สีสันสดใสอยู่ทั่วทุกมุม เดินชมซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยผลงานจากศิลปินท้องถิ่นและระดับโลก งานกราฟฟิตี้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ทุกครั้งที่มา จะได้เห็นผลงานศิลปะใหม่ๆ อยู่ตลอด ที่สำคัญ การได้มาในช่วงบ่ายช่วยให้คุณได้แสงแดดที่พอดีสำหรับการถ่ายภาพ ทำให้สีของภาพวาดบนกำแพงดูโดดเด่นและมีชีวิตชีวากว่าเดิม!
คาเฟ่แนะนำ: Market Lane Coffee - Queen Victoria Market ลองสั่งลาเต้พร้อมขนมอบที่ทำสดใหม่ เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการหยุดพักหลังจากเดินเที่ยวกันจนเหนื่อย
เย็น: Eureka Skydeck
ปิดท้ายวันด้วยการขึ้น Eureka Skydeck ชมวิวพาโนรามาของเมลเบิร์นจากตึกสูงที่สุดในเมือง ในช่วงเย็นนี้คุณจะได้เห็นแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและแสงไฟในเมืองค่อยๆ ส่องสว่าง บรรยากาศยามค่ำคืนจากมุมสูงน่าตื่นตาตื่นใจมาก สวยจนลืมหายใจ เป็นการปิดท้ายวันที่สมบูรณ์แบบ
ร้านอาหารแนะนำ: Vue de Monde ร้านอาหารสไตล์ Fine Dining สุดหรูที่ตั้งอยู่บนตึกสูง ทานมื้อเย็นพร้อมชมวิวสวยๆ ในยามค่ำคืน
ที่พักน่านอนในเมลเบิร์น
กิจกรรมน่าลองในเมลเบิร์น
ฮ่องกง
พฤษภาคมเที่ยวประเทศไหนดี? ใครที่อยากไปเที่ยวแบบชิลๆ ไม่ไกลจากไทยมากเท่าไหร่ ฮ่องกงเป็นที่ที่น่าสนใจเลย ช่วงนี้อากาศดี ไม่ร้อน ไม่หนาว ฝนก็ยังไม่ตกหนักเท่าไหร่ โอกาสเจอพายุก็น้อย ทำให้ไปเที่ยวไหนมาไหนได้สะดวก เป็นช่วง Low Season นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก เดินเที่ยวสบายๆ ไม่ต้องเบียดเสียดกับคนมากนัก
เช้า: Choi Hung Estate
เริ่มต้นวันด้วยไปเก็บภาพที่แลนด์มาร์กชื่อดัง Choi Hung Estate จุดเด่นอยู่ที่อาคารอพาร์ตเมนต์หลากสี ตั้งแต่ชมพู เหลือง ฟ้า เขียว ม่วง เรียงรายสวยงาม บนดาดฟ้ามีลานบาสสีสดที่กลายเป็นแลนด์มาร์คถ่ายรูปยอดฮิต ที่นี่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยจริงและสถานที่ท่องเที่ยว คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตคนท้องถิ่นไปพร้อมๆ กับการถ่ายรูปสวยๆ ช่วงเช้าตรู่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน เพราะแสงนวลสวย คนยังไม่พลุกพล่าน ทำให้ได้ภาพถ่ายสวยโดนใจไร้โฟโต้บอมบ์ และแม้จะเป็นที่เที่ยวยอดนิยม แต่ก็อย่าลืมว่านี่คือบ้านของผู้คน ควรเคารพความเป็นส่วนตัวและรักษาความสะอาดด้วยนะ
ร้านอาหารเช้าแนะนำ: Australia Dairy Company ร้านอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงที่มีชื่อเสียง ลองสั่งเมนู Scrambled Eggs และToast และ Macaroni Soup กับ Ham คู่กับชาไข่มุก เป็นมื้อเช้าที่ง่ายแต่อร่อย!
สาย: West Kowloon Cultural District
สายหน่อยเราก็ต่อด้วย West Kowloon Cultural District กันเลย ที่นี่เป็นย่านใหม่แกะกล่องด้านศิลปะและวัฒนธรรมของฮ่องกง ลองแวะไปที่ Art Park ริมทะเล วิวสวย มองเห็นอ่าววิคตอเรียเต็มๆ ตา ช่วงสายๆ แบบนี้แสงกำลังดี เหมาะกับการเดินชมงานศิลปะกลางแจ้งและถ่ายรูปปังๆ และถ้าชอบงานศิลป์ ต้องไม่พลาด M+ Museum ที่มีงานศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลกมาจัดแสดง รับรองว่าเพลินแน่ ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบงานศิลปะ งานดีไซน์ หรือแค่อยากหาที่เดินเล่นชิลๆ ชมวิวสวยๆ ก็คุ้มแล้ว แนะนำให้เผื่อเวลาสักหน่อยนะ เพราะมีอะไรให้ดูเยอะ แถมบรรยากาศดี ใครมาแล้วอาจไม่อยากกลับเลย
ร้านอาหารแนะนำ: FAM ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใน West Kowloon Cultural District เสิร์ฟอาหารจีนร่วมสมัย ลองชิมเมนู Peking Duck หรือ Dim Sum Fusion ที่ทั้งอร่อยและเข้ากับบรรยากาศศิลปะ
บ่าย: K11 Musea
ช่วงบ่ายแนะนำให้เดินทางไปที่ K11 Musea ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหรูที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ ตัวห้างออกแบบสวยมาก มีงานศิลปะแทรกอยู่ตามมุมต่างๆ เดินดูไปช้อปไป สบายตาสบายใจ ใครชอบแฟชั่นหรือของแต่งบ้านเก๋ๆ ต้องชอบที่นี่แน่ มีแบรนด์ดังระดับโลกเพียบ นอกจากช้อปแล้ว ยังมีร้านอาหารดีๆ ให้แวะพักเติมพลังด้วย บางร้านวิวสวยมองเห็นอ่าวอีกด้วย ที่นี่เหมาะมากถ้าอยากได้ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่างจากเดิม ได้ทั้งของดี ได้ชมงานศิลป์ แถมยังได้รูปสวยๆ กลับบ้านอีกต่างหาก
คาเฟ่แนะนำ: % Arabica Coffee ใน K11 Musea เป็นคาเฟ่ยอดนิยม เสิร์ฟกาแฟคุณภาพเยี่ยมที่หอมกรุ่นและขนมอบสดใหม่ ลองสั่งลาเต้หรือมัคคิอาโต้เพื่อเติมพลังระหว่างช้อปปิ้ง
เย็น: Avenue of Stars, Tsim Sha Tsui
ปิดท้ายวันสุดพิเศษด้วยการไปเดินเล่นที่ Avenue of Stars ในย่าน Tsim Sha Tsui กัน ที่นี่เป็นทางเดินริมน้ำที่มีวิวสวยสุดๆ มองเห็นตึกระฟ้าของฮ่องกงเรียงราย ช่วงเย็นๆ แบบนี้ บรรยากาศดีมาก คุณจะได้ชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก แล้วค่อยๆ เห็นไฟเมืองสว่างขึ้นทีละดวง สวยจนต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายแน่ๆ อย่าลืมลองนั่งเรือ Star Ferry ข้ามฝั่ง ชมวิวอ่าววิคตอเรียยามค่ำคืนจากกลางน้ำ เป็นการปิดทริปที่สมบูรณ์แบบสัมผัสความเป็นฮ่องกงแท้ๆ แนะนำให้มาถึงก่อนพระอาทิตย์ตกนิดหน่อย จะได้มีเวลาหาจุดชมวิวดีๆ แล้วค่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศในช่วงที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ร้านอาหารเย็นแนะนำ: Tung Po Seafood Restaurant เป็นร้านอาหารทะเลที่ได้รับความนิยม ลองสั่ง Crispy Fried Squid หรือ Garlic Prawns ที่ปรุงสดใหม่และมีรสชาติอร่อย ทานคู่กับเบียร์เย็นๆ เพื่อปิดท้ายวันอย่างสมบูรณ์แบบ
ที่พักน่านอนในฮ่องกง
กิจกรรมน่าลองในฮ่องกง
มอสโก รัสเซีย
เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงที่อากาศในรัสเซียเริ่มอบอุ่นขึ้นหลังจากฤดูหนาวที่ยาวนาน ดอกไม้บานสะพรั่งทั่วเมืองทำให้ทิวทัศน์สวยงามยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วงนี้ยังเป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก ทำให้คุณสามารถเดินเล่นและเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมยังมีเทศกาลเฉลิมฉลอง Victory Day ซึ่งคุณสามารถชมขบวนพาเหรดและการแสดงพลุในจัตุรัสแดงได้ เป็นช่วงเวลาที่มีชีวิตชีวาและน่าจดจำ
เช้า: จัตุรัสแดง (Red Square)
เริ่มเช้าวันใหม่กันที่จัตุรัสแดง หรือ Red Square กัน ที่นี่เรียกว่าเป็นหัวใจของมอสโกเลยก็ว่าได้ ช่วงเช้าๆ แบบนี้ บรรยากาศดีมาก คนยังไม่เยอะ เหมาะกับการเก็บภาพสวยๆ โดยเฉพาะกับมหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil's Cathedral) ที่มีโดมหัวหอมสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ แบละพระราชวังเครมลิน (Kremlin Palace) ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมก็สวยงามมาก ไปเดินเล่นรอบๆ จัตุรัส คุณจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญของสถานที่นี้ต่อประเทศรัสเซีย แนะนำให้มาถึงแต่เช้า จะได้มีเวลาเดินชมและถ่ายรูปแบบไม่ต้องรีบ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะทยอยมากันเยอะ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ สำหรับการเที่ยวมอสโก
สำหรับใครที่รู้สึกว่า ถ่ายรูปแค่จากด้านนอกไม่หนำใจ ก็ยังสามารถซื้อบัตรเข้าชมสถานที่สุดโด่งดังทั้งสองได้ แต่อาจะต้องมากันหลายวันหน่อย และแพลนทริปกันดีๆ เพราะแต่ละสถานที่ มีอะไรให้ชมอยู่เยอะเลย!
ร้านอาหารแนะนำ: Bosco Café ในบริเวณ GUM ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่อยู่ข้างจัตุรัสแดง ลองสั่ง Russian Blini แพนเค้กรัสเซีย กับ Caviar และชาเขียวรัสเซียเพื่อเพิ่มความสดชื่น
สาย: Victory Day Parade
ในช่วงสายคุณสามารถไปเข้าร่วม Victory Day Parade ซึ่งจัดขึ้นที่ Red Square และทั่วทั้งมอสโกในวันที่ 9 พฤษภาคม ของทุกปี โดยพาเหรดจะเริ่มประมาณ 10 โมงเช้า เทศกาลนี้จัดขึ้นเฉลิมฉลองชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่สอง ขบวนพาเหรดนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อทหารผ่านศึกและการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและน่าประทับใจที่ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความรักชาติและพลังของชาวรัสเซีย
ร้านอาหารแนะนำ: Dr. Zhivago ร้านอาหารรัสเซียสุดคลาสสิก ลองสั่งเมนู Borscht ซุปบีทรูท และ Beef Stroganoff ที่เป็นอาหารรัสเซียแบบดั้งเดิม รสชาติอร่อยเข้มข้นถึงใจ
บ่าย: Arbat Street
ช่วงบ่ายลองไปเดินเล่นที่ถนน Arbat กันดีกว่า เป็นถนนคนเดินที่ดังที่สุดในมอสโก ที่นี่มีครบทั้งร้านค้า คาเฟ่น่านั่ง และงานศิลปะสวยๆ ให้ชม บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการเดินชิลๆ ถนนนี้มีประวัติยาวนาน เป็นเหมือนศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรมรัสเซียเลยล่ะ อยากได้ของฝากก็มีให้เลือกเพียบ หรือถ้าโชคดีอาจได้ดูการแสดงดนตรีสดริมทางด้วย แนะนำให้แวะนั่งคาเฟ่สักร้าน จิบกาแฟ ทานขนม แล้วดูผู้คนเดินผ่านไปมา รับรองว่าเพลินแน่นอน เป็นที่เที่ยวที่ไม่ต้องเร่งรีบ ได้ซึมซับบรรยากาศเมืองมอสโกแบบชิลๆ
เย็น: Gorky Park
ปิดท้ายวันด้วยการไปพักผ่อนที่ Gorky Park เป็นสวนสาธารณะใหญ่ริมแม่น้ำมอสโก บรรยากาศดีมากๆ ช่วงเย็นแบบนี้ อากาศกำลังสบาย เหมาะกับการเดินเล่น ถ้าขี้เกียจเดิน เขามีจักรยานให้เช่า ปั่นชมสวนกันฟินๆ พอพระอาทิตย์เริ่มตก บอกเลยว่าวิวสวยมาก แสงสีทองทาบทับต้นไม้และแม่น้ำ เป็นภาพที่น่าประทับใจ ถ้าอยากชมวิวเมืองมอสโกยามค่ำคืน ลองล่องเรือชมไฟเมืองระยิบระยับก็อิ่มเอมกันไปอีกแบบ ที่นี่เป็นที่โปรดของคนท้องถิ่น คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวมอสโกในยามเย็นเป็นการปิดท้ายวันที่สมบูรณ์แบบเลย ได้ทั้งพักผ่อน ชมวิวสวย และสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นแท้ๆ
ร้านอาหารแนะนำ: Cafe Pushkin ร้านอาหารสุดหรูที่มีเมนูรัสเซียแบบดั้งเดิม ลองสั่ง Pelmeni เกี๊ยวรัสเซีย หรือ Duck with Berries Sauce ที่เสิร์ฟในบรรยากาศสุดหรูหราแบบรัสเซียโบราณ
เฮลซิงกิ ฟินแลนด์
ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนพฤษภาคมอีกแห่งที่น่าไปคือ เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ช่วงนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้วนะ หิมะละลายหมด ต้นไม้เริ่มผลิใบ ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง บรรยากาศสดชื่นมาก เหมาะแก่การเดินเล่นชมเมืองสุดๆ คุณจะได้เพลิดเพลินกับแสงแดดที่สาดส่องไปทั่วเมือง สวยงามจนอยากหยุดเวลาเ ชมสถาปัตยกรรมสวยๆ พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตแบบนอร์ดิก!
เช้า: Helsinki Cathedral
เช้านี้เริ่มต้นวันด้วยการเดินเล่นที่ Helsinki Cathedral โบสถ์สีขาวหลังใหญ่ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ตั้งตระหง่านอยู่บน Senate Square สวยงามมาก โดยเฉพาะตอนเช้าๆ แบบนี้ ท้องฟ้าสีครามตัดกับตัวโบสถ์สีขาว ดูแล้วสบายตาสุดๆ ช่วงนี้คนยังไม่ค่อยพลุกพล่าน เงียบสงบดี เหมาะกับการเดินชมบรรยากาศรอบๆ จัตุรัสอย่างไม่รีบร้อน ถ้าชอบถ่ายรูปก็ห้ามพลาดเลยแสงเช้าๆ แบบนี้สวยมาก ได้ภาพปังๆ แน่นอน เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นวันที่ดีเลย
ร้านอาหารเช้าแนะนำ: Café Engel ร้านคาเฟ่ใกล้ Helsinki Cathedral เสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ยุโรป ลองสั่ง Eggs Benedict หรือ Porridge เสิร์ฟพร้อมกาแฟหอมกรุ่น เหมาะสำหรับการเริ่มต้นได้อย่างดี
สาย: Temppeliaukio Church
จากนั้นเดินทางไปที่ Temppeliaukio Church หรือโบสถ์หิน ที่นี่เป็นโบสถ์ที่แกะสลักจากหินธรรมชาติ ทำให้มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัย ช่วงสายเป็นเวลาที่แสงแดดจะส่องผ่านช่องกระจกด้านบนของโบสถ์ ทำให้บรรยากาศภายในดูน่าทึ่งมากยิ่งขึ้น โบสถ์แห่งนี้เป็นจุดแวะชมที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ร้านอาหารแนะนำ: Ravintola Kuu ร้านอาหารสไตล์ฟินแลนด์ที่อยู่ใกล้กับ Temppeliaukio Church ลองชิมเมนูฟินแลนด์ดั้งเดิมอย่าง Salmon Soup ซุปปลาแซลมอน หรือ Reindeer Steak ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของฟินแลนด์
บ่าย: Esplanadi Park
ช่วงบ่ายให้ไปเดินเล่นที่ Esplanadi Park สวนสาธารณะกลางเมืองที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่กำลังบานในช่วงเดือนพฤษภาคม บรรยากาศในสวนสดชื่นและผ่อนคลาย สามารถนั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้หรือเดินชมรอบๆ สวน นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ให้แวะพักดื่มกาแฟและชมวิถีของเมอง ผู้คนที่่อแกมาทำกิจกรรมต่างๆ ในสวน
คาเฟ่แนะนำ: Strindberg Café คาเฟ่หรูสไตล์คลาสสิกตั้งอยู่ใกล้ Esplanadi Park ลองสั่ง Karelian Pie ขนมปังฟินแลนด์แบบดั้งเดิม หรือเค้กหวานๆ พร้อมกับกาแฟเป็นของว่างยามบ่าย
เย็น: Suomenlinna Fortress
ปิดท้ายวันด้วยการไปที่ Suomenlinna ซึ่งเป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเกาะ เดินทางไปยังเกาะนี้โดยเรือเฟอร์รีจากท่าเรือที่ Market Square ช่วงเย็นเหมาะที่สุดสำหรับการเดินเล่นรอบๆ ป้อมปราการ ชมวิวทะเลและบรรยากาศที่เงียบสงบของเกาะ นอกจากนี้ Suomenlinna ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ทำให้เป็นสถานที่สุดท้ายที่เหมาะสำหรับปิดท้ายวันได้อย่างน่าจดจำ
ร้านอาหารเย็นแนะนำ: Restaurant Suomenlinna Brewery ร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารฟินแลนด์พร้อมเบียร์ที่ทำเอง ลองสั่ง Finnish Meatballs หรือ Fish of the Day ซึ่งมาจากแหล่งธรรมชาติใกล้เคียง
ที่พักน่านอนในเฮลซิงกิ
กิจกรรมน่าลองในเฮลซิงกิ
อินเทอร์ลาเคิน สวิตเซอร์แลนด์
ที่เที่ยวต่างประเทศเดือนพฤษภาคมที่น่าไปสัมผัสเพราะเหมือนหลุดมาจากนิทาน! อินเทอร์ลาเคิน เมืองเล็กๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะทำให้คุณหลงรักธรรมชาติแบบถอนตัวไม่ขึ้น ช่วงนี้อากาศกำลังดีเลย ไม่หนาวจนเกินไป แต่ก็ยังเย็นสบาย เหมาะมากสำหรับการเที่ยวชมวิวสวยๆ รอบทะเลสาบ หรือจะนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาก็ได้ ยิ่งตอนนี้หิมะเริ่มละลาย ทุ่งหญ้าเขียวขจีกำลังเริ่มโผล่ให้เห็น สวยงามมากๆ!
เช้า: Jungfraujoch
เริ่มต้นวันด้วยการเดินทางขึ้นไปยัง Jungfraujoch ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในสวิตเซอร์แลนด์ จากอินเทอร์ลาเคิน สามารถนั่งรถไฟขึ้นไปบนยอดเขาจุงเฟรา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางคุณจะได้ชมวิวภูเขาหิมะที่งดงาม เมื่อถึง Jungfraujoch คุณจะได้สัมผัสกับวิวพาโนรามาที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ และยังสามารถเดินเล่นบนหิมะได้แม้ในช่วงเดือนพฤษภาคม แนะนำให้ขึ้นยอดเขาในช่วงเช้าเพราะอากาศยังสดชื่น และแสงแดดยามเช้าจะทำให้วิวดูสวยงามเป็นพิเศษ
ร้านอาหารแนะนำ: ร้าน Restaurant Crystal ที่ Jungfraujoch ลองสั่ง Swiss Rösti เป็นเมนูท้องถิ่นที่อร่อยและอุ่นท้องยามเช้า
สาย: Harder Kulm
หลังจากกลับลงมาจาก Jungfraujoch แนะนำให้ไปที่ Harder Kulm ซึ่งเป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองอินเทอร์ลาเคิน คุณสามารถขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังจุดชมวิว ใช้เวลาเพียง 10 นาที ที่นี่คุณจะได้ชมวิวเมืองอินเทอร์ลาเคินทั้งสองฝั่งของทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) ช่วงสายเป็นเวลาที่แสงสวยพอดี และอากาศไม่ร้อนเกินไป ทำให้การชมวิวและถ่ายภาพเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ร้านอาหารแนะนำ: Harder Kulm Panorama Restaurant เสิร์ฟอาหารสวิสแบบดั้งเดิม ลองสั่งเมนู Bratwurst กับ Rösti ซึ่งเป็นเมนูท้องถิ่นที่เข้ากันได้ดีกับการนั่งชมวิวสวย ๆ ของภูเขา
บ่าย: Hohematte Park
หลังจากพักผ่อนที่ Harder Kulm แนะนำให้ไปเดินเล่นที่ Hohematte Park ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอินเทอร์ลาเคิน ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีวิวภูเขา Eiger, Mönch, และ Jungfrau อยู่ด้านหลัง ช่วงบ่ายเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นในสวนและชมความงามของธรรมชาติรอบตัว อีกทั้งยังสามารถเดินสำรวจร้านค้าหรือคาเฟ่รอบๆ บริเวณนี้ได้อีกด้วย
คาเฟ่แนะนำ: Café de Paris คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสในตัวเมืองอินเทอร์ลาเคิน เสิร์ฟกาแฟและขนมอบสดใหม่ ลองสั่ง เค้กช็อกโกแลต และกาแฟเป็นของว่างยามบ่ายรับรองว่าอิ่มอร่อย
เย็น: Interlaken Lake
ปิดท้ายวันด้วยการล่องเรือชมทะเลสาบที่งดงามรอบอินเทอร์ลาเคิน สามารถเลือกล่องเรือในทะเลสาบทูน (Lake Thun) หรือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) ซึ่งจะได้เห็นทั้งวิวภูเขาและท้องฟ้าที่สวยงามในช่วงเย็น การล่องเรือช่วงนี้เหมาะที่สุดเพราะแสงอาทิตย์ที่กำลังตกจะทำให้ทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลสาบดูโรแมนติกและสวยงาม จบวันกันแบบฟินจนลืมหายใจ
ร้านอาหารเย็นแนะนำ: Restaurant Taverne ที่เสิร์ฟอาหารสวิสแบบดั้งเดิม ลองทาน Raclette หรือ Zürcher Geschnetzeltes เนื้อลูกวัวกับซอสครีม ที่เป็นเมนูแนะนำในบรรยากาศยามเย็น
ที่พักน่านอนในอินเทอร์ลาเคิน
กิจกรรมน่าลองในอินเทอร์ลาเคิน
ปักหมุดครบแล้ว ต้องจัดทริปด่วน! หากมองหาเที่ยวบิน ที่พัก หรือ แพ็คเกจสำหรับประสบการณ์ใหม่ๆ Gother มีตัวเลือกให้มากมาย พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ | เที่ยวที่ใช่ ตามใจคุณกับ Gother!